วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

[NC ร่าน] Chapter4: SIN Mark



[CHAPTER 4] SIN Mark

"เฮ้ออออออ"
ร่างเล็กถอนหายใจยาวพร้อมโยนสมุดเลกเชอร์ในมือลงบนโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวีอย่างเบื่อหน่าย เขารู้สึกว่าตัวเองคิดผิดถนัดที่หลงเชื่อคำพูดของซองมินที่บอกว่าเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางแล้วจะทำให้เลิกฟุ้งซ่าน และอ่านหนังสือได้สงบขึ้น ที่แท้มันก็แค่กลลวงง่ายๆที่มาเป็นข้ออ้างให้เขามาค้างที่หอพักเป็นเพื่อนยามที่รูมเมทตัวดีมีธุระต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเท่านั้น
ฮยอกแจที่ใช้เวลากว่าชั่วโมงกับการนั่งเพ่งตัวอักษรขยุกขยิกที่เบียดอันกันในสมุดเล่มบางของตัวเอง อ่านทวนซ้ำรอบแล้วรอบเล่าก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจหรือจดจำเนื้อหาของมันได้สักนิด มือบางปิดสมุดเลกเชอร์ลง ล้มเลิกความตั้งใจ ก่อนเอนตัวนอนบนโซฟาขนาดเล็ก นึกถึงภาพเหตุการณ์ในงานโฮมที่ผ่านไปเมื่ออาทิตย์ก่อนที่มันยังวนเวียนอยู่ในหัวกวนใจจนเขาอ่านอะไรไม่รู้เรื่อง

เพี๊ยะเรียวมือบางฟาดเข้าที่ใบหน้าหล่อคมจนเกิดเสียงดัง ดวงตากลมสวยมองร่างตรงหน้านิ่ง แววตาวูบไหว ไหล่บางสั่นน้อยๆ ทั้งตกใจ ทั้งไม่เข้าใจเหตุผลของร่างสูงที่จู่ๆก็ทำแบบนั้น
"มึงจูบกูทำไม"
"นั่นสิ. ทำไมกูต้องจูบมึงด้วยวะ"ร่างสูงยกยิ้มเยาะ พร้อมคว้าข้อมือบางข้างที่ตบหน้าเขา ฝ่ามือแกร่งออกแรงบีบแน่นจนคนตัวเล็กหน้าเหยเก ริมฝีปากหยักบดเบียดมอบจูบร้อนให้อีกครา เรียวลิ้นตวัดไล้เลียไปรอบๆโพรงปากอุ่น ดูดดุนปลายลิ้นเล็กหนักหน่วง ก่อนจะละออกมาจ้องตาคนตัวเล็กอีกครั้ง
"ที่กูจูบ.. เพราะกูอยากเห็นมึงเจ็บแบบนี้ไงฮยอกแจ อย่าเข้าใจผิดคิดว่ากูพิศวาสหรือหลงใหลอะไรมึงนะ ร่างกายมึงมันโสมม ไร้ค่าเกินกว่าที่กูจะทำใจรักมึงได้ อย่างมากมึงก็แค่ตัวฆ่าเวลา ปรนเปรอเวลากูหาซื้อตามข้างถนนไม่ได้"ถ้อยคำร้ายจากร่างสูงบาดใจจนคนตัวเล็กหันหนี มือบางที่ถูกพันธนาการกำเข้าหากันแน่น
"ทนฟังกูพูดความจริงไม่ได้เหรอฮยอกแจ ถ้ามึงยืนยันว่ามึงเกลียดกู แล้วมึงจะหันหนีกูแบบนี้ทำไม ทำไมไม่กล้ามองหน้ากูล่ะ"ร่างสูงทิ้งท้ายไว้พร้อมสลัดมือบางทิ้งไม่ใยดี ถอยตัวออกห่างจากร่างบาง มือหนาจัดสูทสีเข้มของตนให้เข้าที่ก่อนจะเดินกลับไปที่จุดนัดพบเดิมเพื่อรอคนรัก

ฮยอกแจมองตามแผ่นหลังของร่างโปร่งไปเงียบๆ หยาดน้ำตาใสๆที่กลั้นเอาไว้ไหลอาบแก้มเนียนเป็นทางยาว ยกหลังมือขึ้นซับน้ำตาออกมาเบาๆ 
กี่ครั้งแล้วที่ฮยอกแจต้องอ่อนแอร้องไห้ง่ายๆให้กับทงเฮแบบนี้ เพียงแค่ทงเฮด่าทอ เพียงแค่ทงเฮเข้ามาแกล้งปั่นหัว ทั้งๆที่เคยเจอเรื่องแบบนี้หมายหลายต่อหลายครั้ง แต่ทำไมฮยอกแจถึงไม่เคยเข้มแข็ง กล้าพอที่จะผลักไสทงเฮออกไปไกลจากชีวิตเขาได้กันนะ
เป็นเพราะเขาผูกพันกับทงเฮเกินไป..
หรือเป็นเพราะ พันธนาการ กับดักที่ทงเฮสร้างเอาไว้ ผูกไม่ให้เขาตัดใจจากทงเฮได้กันนะ
กูก็แค่อยากรู้...สิ่งที่มึงทำกับกูทุกๆอย่าง...
ทุกครั้งที่มึงบอกไม่ให้กูยุ่งกับคนอื่น ที่เอาแต่ด่า เอาแต่ดูถูกกูเวลากูอยู่กับใคร
เป็นเพราะมึงเริ่มหวั่นไหว เริ่มรู้สึกแบบเดียวกันกับกู..
หรือว่ามึงกลัว ของเล่นฆ่าเวลา หายไป

"อ๊ะ...ซะ..ซีวอน"ฮยอกแจหันไปเห็นร่างสูงเดินออกจากห้องน้ำ คนตัวเล็กก็คิดแผนการเล่นละครเพื่อตอบโต้ทงเฮออก ร่างบางเอ่ยเรียกร่างแกร่งเสียงหวานพร้อมรีบเดินเข้าไปหา ปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่อีกฝ่ายอย่างเสแสร้ง มือบางเลื่อนไปคล้องแขนแกร่งอย่างที่ไม่เคยทำ
“หื้มม?”อาการแปลกๆของคนตัวเล็กทำให้ซีวอนเลิกคิ้วมอง ปกติฮยอกแจไม่ชอบให้เขาสัมผัสตัวสักเท่าไร จนบางครั้งแค่เขาเข้าใกล้เจ้าตัวก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
"อารมณ์ดีแล้วเหรอซีวอน..ป่ะ ไปหาทงเฮกันนะ"ฮยอกแจยิ้มหวานอ้อนด้วยท่าทางน่ารักๆ ซีวอนเห็นดังนั้นจึงไม่อยากติดใจสงสัยอะไรให้มากความ พาคนน่ารักเดินไปหาทงเฮตามคำขอ แขนเรียวยังคงคล้องท่อนแขนของซีวอนไม่ปล่อย
ทงเฮยืนมองร่างทั้งสองไม่วางตา มองความสนิทสนมของร่างตรงหน้ายิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจ ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาจำได้ว่านอกจากซองมินแล้ว ซีวอนเป็นคนแรกที่ฮยอกแจยอมให้เข้าใกล้ได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่การพูดคุย การแสดงออกในวันอื่น บ่งบอกชัดเจนว่าฮยอกแจไม่ได้รู้สึกอะไรกับซีวอนสักนิด แต่สิ่งที่แสดงออกวันนี้ดูเหมือนว่าฮยอกแจจงใจจะประชดเขา
"เวลาไปไปแยก แต่เวลามามาเป็นคู่นะ ไอ้ที่บอกว่าจะไปสงบอารมณ์ในห้องน้ำน่ะ ใช้วิธีไหนเหรอ ต้องเข้าไปช่วยกันสองคนรึไง"ทงเฮเอ่ยเหยียดๆ ยกยิ้มร้ายมุมปาก
"ขอโทษนะ ผมไม่อยากถือสาอะไรให้มากความ หยุดพูดหมาๆแบบนี้เถอะ มันไม่ได้ช่วยให้ดูดีสักนิด มีแต่จะส่งความคิดต่ำๆออกมาทั้งนั้น"ซีวอนเอ่ยเตือนด้วยเสียงเรียบ มือหนากำเข้าหากัน อารมณ์ร้อนที่พยายามทำให้สงบลงไปเริ่มกลับมาอีกครั้ง
“ความคิดต่ำ? ก่อนจะด่าคนอื่น มองสิ่งที่ตัวเองทำก่อนดีมัย ผมว่ามันดูต่ำกว่ามากนะ”
“ไม่รู้อะไรก็หุบปากได้ดีกว่านะครับ”ซีวอนเอ่ยเตือน
"ทำไมล่ะทงเฮ.. ที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแบบนี้ เป็นเพราะ...หวงชั้นงั้นเหรอ?"ฮยอกแจขัดขึ้นพร้อมเลิกคิ้วมองร่างโปร่ง ยกยิ้มมุมปากท้าทาย พลางขยับกายเบียดกายเข้าใกล้ซีวอนมากกว่าเก่า
"หวง? คิดมากสำคัญตัวผิดไปรึเปล่า มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหวงนายล่ะ"ทงเฮเอ่ยพร้อมแค่นหัวเราะ
"นั่นสิ..ทำไมต้องมาหวงล่ะเนอะ ในเมื่อ...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ต่างกับฉัน ที่เป็น แฟนซีวอน”ร่างเล็กเน้นหนักคำพูดให้ดังชัดเจน เอียงคอซบไหล่กว้าง ออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชังแบบที่ไม่ค่อยได้เห็น ซีวอนมองอีกร่างข้างกายสลับกับมองสีหน้าของทงเฮ สิ่งที่รับรู้คือสงครามประสาท การประชดประชันที่เขาถูกดึงเข้าไปเกี่ยวโดยไม่รู้ตัว
“แน่ใจว่าแฟน? ไม่ใช่แค่ควงแขนเอาไว้อวดคนในงานเล่น?”
“แน่สิ ก็เราสองคนเพิ่งตกลงคบกัน”ฮยอกแจว่าพลางยักไหล่น้อยๆ ยิ่งเห็นแววตาขุ่นเคืองของทงเฮ ก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองปั่นหัวอีกฝ่ายสำเร็จ คิดว่าตัวเองจะเที่ยวดูถูกคนอื่นได้ฝ่ายเดียวเหรอไง เจ้าชีวิตก็ไม่ใช่ มีสิทธิอะไรมาบังคับ มากำหนดจิตใจเขากัน
“ก็ขอให้...เสแสร้งรักกันได้นานๆละกันนะ เป็นคำอวยพร”ร่างโปร่งข่มอารมณ์ร้อนที่มีไว้ภายใน กดเสียงต่ำเอ่ยบอกคู่รักตรงหน้าพร้อมแค่นยิ้มน้อยๆ ไม่นานหลังจากนั้นฮีบินก็เดินกลับเข้ามาในวงสนทนา หญิงสาวยิ้มหวานมองชายทั้งสามสลับกันกัน สีหน้าเครียดๆพร้อมกับบรรยากาศการสนทนาที่น่าอึดอัดทำให้เธอตัดสินใจเปิดประเด็นชวนคุยเรื่องงานในคณะ
แม้ฮยอกแจจะแสร้งฉีกยิ้ม คอยเอาอกเอาใจเข้าใกล้ซีวอนโดยไม่มีทีท่ารังเกียจรังงอนสัมผัสจากมือหนาที่โอบเอวบางเอาไว้หลวมๆ แต่เมื่อไรที่เหลือบไปเห็นฝ่ามือหนาของทงเฮที่คอยโอบกอดเอวคอดของหญิงสาว ลูบไล้เบาๆตามประสาคนมือไว ร่างเล็กต้องรีบละสายตาหันหนี รู้สึกเหมือนมีหยดน้ำตาร้อนๆเอ่อคลอที่ดวงตาคู่สวย
นึกถึงสัมผัสหนักหน่วงที่ถูกบดลงมาที่ริมฝีปาก ฟันคมขบกัดจนเป็นแผล ความดุดันที่เกิดจากการประชดประชันอยากเอาชนะ สงครามประสาทที่ใช้ความรู้สึกของเขาเป็นเครื่องมือ ถึงแม้เขาจะตอกกลับโดยการใช้ซีวอนเป็นเครื่องมือ แต่ดูเหมือนปฏิกิริยาตอบกลับของทงเฮจะน้อยมากกว่าที่แอบหวังไว้ นั่นเพราะความรู้สึกในใจของทงเฮ มันไม่ได้ผูกพันลึกซึ้งอะไรกับเขาเลยสักนิด

“ฮยอกแจ..”เสียงทุ้มดังขึ้นทำลายความเงียบที่มีมาตลอดทางที่ซีวอนขับรถมาส่งร่างบางที่บ้าน ตั้งแต่ออกจากงานมาคนตัวเล็กยังไม่ปริปากเอ่ยอะไรสักนิด สิ่งที่ฮยอกแจแสดงออกเพียงอย่างเดียวคือหยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลอาบแก้มเงียบๆ
เงียบ...จนได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วๆที่บอกว่าคนตัวเล็กยังนั่งอยู่ในเบาะข้างคนขับ
“ถึงบ้านแล้วนะ”
“อืม..ซีวอน..ชั้นขอบคุณนะ”
“หืม?”
“ขอบคุณที่ทำให้ชั้นรู้ว่าประชดไปก็ไม่ได้อะไร”
“....”
“....”
“ก็ขอบคุณเหมือนกันนะฮยอกแจ..ขอบคุณที่ช่วยผม”
“อืม”ฮยอกแจพยักหน้ารับคำก่อนจะเปิดประตูรถออกไป ซีวอนมองตามแผ่นหลังเล็กเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้าน มองจนมั่นใจว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ก่อนจะออกรถไปจากหน้าบ้านของคนตัวเล็ก
ร่างเล็กเปิดประตูเข้าห้องนอนอย่างเหนื่อยอ่อน ถอดเสื้อสูทราคาแพงโยนเอาไว้บนเตียงลวกๆ มือนึงปลดเนคไทด์เส้นสวยที่บรรจงผูก อีกมือก็เลื่อนไปล้วงโทรศัพท์มือถือที่ปิดสั่นปิดเสียงออกจากกระเป๋ากางเกง ไฟหน้าจอกระพริบถี่บ่งบอกว่ามีสายโทรเข้า แต่เพราะเบอร์ที่โชว์ขึ้นบนจอทำให้ร่างเล็กลังเลที่จะกดรับ
สายโทรศัพท์ถูกตัดไป ก่อนเมนูแสดงมิสคอลจะปรากฏตัวเล็กทำให้ฮยอกแจตาโต 10 สายมิสคอล และ 3 ข้อความจากหมายเลขเดียวกัน หมายเลขของคนพิเศษที่ฮยอกแจตั้งใจเซฟเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้รายชื่ออยู่ข้างบนชื่ออื่นที่เมมเป็นภาษาเกาหลี
00.57 ‘ทำไมไม่รับสายกู  มึงมั่วกันอยู่เหรอ
00.45 ‘มึงไม่มีทางเลิกรักกูได้รัก ลีฮยอกแจ

00.30 ‘มึงเป็นของกู ไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือร่างกายของมึง
ฮยอกแจเม้มปากแน่นเมื่อไล่อ่านลงไปถึงข้อความแรกที่ถูกส่งเข้ามา หยาดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหลตลอดพรั่งพรูออกมามากกว่าเก่า ร่างเล็กทิ้งตัวนอนซบกับหมอใบโต เสียงสะอึกสะอื้นที่อัดอั้นเอาไว้ ปล่อยโฮเสียงดัง ระเบิดน้ำตาโดยไม่ต้องอายใครเมื่อได้มีเวลาอยู่คนเดียว
“ฮึก..ฮื้อออ..ทำไม...ทำไม..ทำไมวันนี้ถึงจูบชั้น...ฮึก..นายทำแบบนี้ทำไมทงเฮ...”
...มึงทำแบบนี้ทำไม...ผูกกูไว้กับมึงทำไม ทั้งๆที่ใจมึงก็ไม่เคยมีกู...
ตั้งแต่วันนั้น ฮยอกแจก็เลือกที่จะไปมหาวิทยาลัยให้เช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิชาไหนที่ต้องเรียนกับทงเฮเขาก็ให้ซองมินเข้าไปจดเลกเชอร์แทนเพื่อเลี่ยงจะพบหน้ากับคนที่มีอิทธิพลกับใจเขามากที่สุด ไม่รู้เหตุผลว่าต้องทำมันไปเพราะอะไร เขาเพียงแค่รู้สึกไม่ดี แต่ไม่รู้ว่ามันเกิดจากที่เขาไม่พร้อมจะตอบคำถามอะไรจากทงเฮ หรือว่าเพราะ...เขากำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่...

“เฮ้อออออ”ฮยอกแจถอนหายใจยาวพลางพลิกตัวไปหยิบสมุดเลกเชอร์กลับมาเปิดอ่านอีกครั้ง ลุกขึ้นมองนาฬิกาบนผนังก็ถอนใจเสียงดัง เกินเวลานัดทานข้าวเย็นมาเกือบสามชั่วโมงแล้ว ดึกป่านนี้ทำไมซองมินยังไม่กลับมาอีกนะ ไปไหนของเขากัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นทำให้ฮยอกแจรีบวิ่งถลาไปเปิดเพราะคิดว่าเจ้าของห้องเป็นคนเคาะ ร่างบางยิ้มน้อยๆดีอกดีใจที่เขาไม่ต้องทนเหงาคิดอะไรฟุ้งซ่านแล้วนอนร้องไห้แบบที่เป็นมาทั้งวัน
“อ่ะ..มะ..ทงเฮ...”รอยยิ้มบนใบหน้าสวยจางหายไปในทันทีเมื่อเห็นร่างสูงที่ปรากฏตรงหน้า ใบหน้าหล่อไร้รอยยิ้มแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยว สายตาคมกริบจ้องมองร่างตรงข้ามนิ่งราวกับต้องการเชือดเฉือนร่างบางให้เกิดบาดแผลด้วยสายตาของตน
“มะ..มาทำไม..อื้ออออออ”ไม่ทันที่ฮยอกแจจะได้ซักไซ้ถามคำถามที่อยากรู้ จุมพิตหนักๆบดขยี้ริมฝีปากอิ่มรุนแรงพร้อมอ้อมกอดแกร่งที่รัดร่างบางไม่ให้ดิ้นหนี

“อื้ออ..อื้ออออ”มือบางทุบอกแกร่งพยายามผลักไส้ร่างโปร่งตรงหน้าให้ออกห่าง มือหนาข้างหนึ่งรวบข้อมือบางทั้งสองเอาไว้พร้อมออกแรงบีบจนร่างเล็กนิ่วหน้า สัมผัสจาบจ้วงจากเรียวลิ้นร้อนที่พยายามดุนดันผ่านรอยแยกของริมฝีปากทำให้ฮยอกแจยิ่งเม้มปากแน่นมากขึ้น พยายามขัดขืนทุกวิถีทางไม่ให้ร่างตรงหน้ารุกรานเขาได้ตามใจชอบ
“มึง..”ร่างสูงละริมฝีปากออกเมื่อความพยายามในการสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กหมดสิ้น สายตาคมจ้องตาคู่สวยลึก ข่มขู่ให้ร่างน้อยๆที่กำลังสั่นในอ้อมแขนเขาหยุดขัดขืน
“กู..อึก..ฮึก..มึงทำแบบนี้ทำไม..ฮึก..กูไปทำอะไร...”ฮยอกแจถามกลับเสียงขาดห้วง ก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกที่ลำคอทำให้การเอื้อนเอ่ยคำพูดติดขัดจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“มึงหลบหน้ากูทำไม”ร่างสูงที่มีอารมณ์ร้อนอยู่เดิมที ยิ่งมาเห็นท่าทางอึกอัก พร้อมหยดน้ำตาที่คลอหน่วงพร้อมจะไหลของคนตรงหน้าความโมโหยิ่งเพิ่มขึ้นทวี มือหนาออกแรงบีบข้อมือเล็กมากขึ้น เลื่อนมืออีกข้างที่กอดรัดกายบางขึ้นมาบีบคางมนให้อ้าริมฝีปากออก
อีกครั้งที่เรียวปากหนักทาบทับบดขยี้เรียวปากอิ่มแดงหนักหน่วงรุนแรง เรียวลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากเล็ก ตวัดกวาดปลายลิ้นสำรวจจาบจ้วงไปทั่ว ดูดดุนเรียวลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนีสัมผัส ตวัดรัดเกี่ยวอย่างช่ำชอง ดูดกลืนลมหายใจและเรี่ยวแรงของฮยอกแจจนร่างเล็กแทบยืนไม่ไหว เสียงครางประท้วงอ่อนระรวยในลำคอดังขึ้นขัดทำให้ร่างสูงตัดใจละริมฝีปากออกมา
“แฮ่ก..แฮ่ก..กู..ไม่..แฮ่ก..ไม่ได้หลบ..มึง..”ฮยอกแจก้มหน้ามองต่ำ หอบหนักพยายามกอบโกยอากาศเข้าสู่ปอด แค่นเสียงเอ่ยถามคำถามที่ค้างคาสั่นพร่า
“มึงโกหก ตั้งแต่วันนั้นมึงก็ไม่ได้มาเรียนวิชาที่มึงลงกับกู กูไม่เห็นหน้ามึงเวลาเดินเข้ามหาลัยสักครั้ง มึงหลบกู...เพราะมึงกลัวว่ากูจะทำอะไรมึงรึไง”ทงเฮเอ่ยเสียงแข็งพลางจ้องใบหน้าหวานตรงหน้าด้วยสาดตาโกรธเคืองราวกับสามารถจะกินเลือดกินเนื้อร่างบางเข้าไปได้
“มะ..ไม่..”ฮยอกแจตอบกลับเสียงแผ่ว ลาดไหล่บางสั่นน้อยๆ พร้อมกับหยาดน้ำใสๆไหลรินจากดวงตากลมสวย ฮยอกแจกล้าบอกได้เลยว่าเขากำลังกลัวร่างตรงหน้ามาก ทั้งสายตาและสีหน้าแบบนี้ของทงเฮ เขาจำได้ว่าเขาเคยเห็นมันมาแล้วหนึ่งครั้งก่อนหน้านี้..
เขาจำมันได้ดีว่าครั้งนั้นที่ได้เห็นมัน ร่างกายเขาต้องทนรับความเจ็บปวดร้าวแล่นปราดไปทั่วจนเขาขยับเขยื้อนลุกจากเตียงไม่ได้ ความรุนแรงป่าเถื่อนที่บดขยี้ร่างกายเขาราวกับสิงห์ตระครุบเหยื่อ บาดแผลร่องรอยที่ยากจะหายถูกฝากฝังไว้บนกายจนทั่ว
“กูเคยบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอ..ว่ามึงเป็นของกู...”
“....”
“ความทรงจำมึงหายไปแล้วเหรอ มึงจำไม่ได้แล้วใช่มั้ยว่าตอนที่ฮันกยองมันเข้าใกล้มึงแล้วมึงโดนอะไร แล้วนี่มึงยอมปล่อยให้ซีวอนทำอะไรมึงไปบ้างล่ะ คืนนั้นมันส์มากใช่มั้ย..ห๊ะ!!!”ตวาดเสียงกร้าวพร้อมมือหนาที่บีบไหล่บางทั้งสองแน่น
ร่างเล็กหลับตาลงแน่นพยายามสกัดกลั้นน้ำตา ไม่อยากจะมองภาพคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ภาพในความทรงจำเมื่อครั้งนานย้อนกลับมาในหัว ฮยอกแจจดจำเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนได้ไม่มีลืม เพราะวันนั้นมันเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนจากเพื่อนสนิท..

..ความผิดที่ไม่ได้เป็นคนสร้าง แต่กลับต้องรับบทลงโทษ...
...ตราบาปที่ทงเฮเป็นคนสร้าง...
...ไม่ต่างจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้เลยสักนิด...

“กูบอกแล้วว่ามึงเป็นของกู มึงก็ต้องเป็นของกู มึงไม่มีสิทธิเป็นของใคร ไม่ว่าตัวหรือใจมึง ต้องเป็นของกู”สิ้นคำพูดใบหน้าคมก็ซุกไซร้ซอกคอขาวพร้อมขบเม้มรุนแรงจนเกิดร่องรอยบ่งบอกความเป็นเจ้าของสีช้ำ มือหนารูดรั้งดึงเสื้อยืดอยู่บ้านออกจากร่างบาง เรียวลิ้นลากผ่านไปตามแผ่นอกเนียน เลื่อนริมฝีปากเข้าครอบครองยอดอกสีหวาน ดูดดุนรุนแรงจนคนตัวเล็กครางสะท้าน มือหนาดันให้ร่างบางชิดกับประตูพร้อมทาบทับกายเข้าหา
“มึงจำไว้..มึงต้องเป็นของกูเท่านั้น”ย้ำอีกครั้งให้คนตัวเล็กที่กำลังสั่นเทาได้ยินชัดเจน มือบางยกขึ้นปิดกลั้นเสียงอันน่ารังเกียจที่พยายามห้ามไม่ให้อีกฝ่ายได้ยินมัน ทนกัดฟันรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนกายทุกส่วนที่เรียวลิ้นลากผ่าน คมฟันฝากฝังรอยสีแดงช้ำห้อเลือดจนทั่ว
“อึก..มึง..มึงทำแบบนี้ทำไม..ฮึก...กูเจ็บ...อ่าาาาา”
“มึงเจ็บเหรอ..แต่เสียงมึงคราง ก็ดูเหมือนมึงจะมีความสุขกับมันนะ”ร่างสูงว่าพร้อมกับมือข้างนึงบดขยี้ยอดอกสีหวานที่แดงช้ำเพราะการสัมผัส อีกข้างก็เลื่อนลงต่ำบีบเคล้นแกนกายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงสามส่วนตัวหลวม ปลุกเร้าให้อีกฝ่ายโอนอ่อนตามการควบคุมของตน
“กู..อ่า...ทงเฮ..มึง..ออกไป”ฮยอกแจครางลั่นเรียวขาบางสั่นจนแทบประคองกายไม่อยู่ แม้ปากจะเอ่ยห้ามแต่ร่างกายกับปฏิบัติตรงข้าม สะโพกบางแอ่นรับกับมือหนา เสียงครางแหบพร่าดังจากเรียวปากอิ่มไม่หยุด
“มึงมัน..ร่านสุดยอดเลยว่ะ แค่กูบีบๆเคล้นๆมึงก็ครางขนาดนี้ นี่ถ้ากูใส่ยาให้มึงแดก ก็คงจะขย่มกูเองสินะ”กระซิบข้างใบหูเล็กงับเบาๆแล้วเป่าลมร้อนเข้าไปด้านใน มือหนาเร่งปลดกางเกงขาสั้นออกพร้อมรูดรั้งบ๊อกเซอร์ด้านในลง แกนกายเล็กที่ตั้งชูชันขึ้นสู้มือสร้างความพึงพอใจให้ทงเฮไม่น้อย  ฝ่ามือแกร่งขยับรูดรั้งตามความยาว เรียวนิ้วบีบคลึงส่วนปลายหนักๆแกล้งให้อีกฝ่ายร้องครางวอนขอสัมผัสมากขึ้นเรื่อยๆ
“มึง.. อึก..กู..ให้กูปล่อย..อื้ออ..”เสียงหวานขาดห้วงเมื่อจุดหมายปลายฝันที่กำลังเข้ามาใกล้พังทลายลงเมื่อร่างสูงละมือออก ดวงตาคู่สวยปริ่มหยาดน้ำตาเงยหน้ามองร่างตรงข้ามด้วยความแปลกใจ ก่อนจะได้พูดอะไรต่อจูบหนักหน่วงที่ร่างสูงบดเบียดมอบให้ก็ย้อนกลับมาอีกครา
“อ๊าาาาาาาาา”เสียงหวานกรีดร้องลั่นเมื่อเรียวขาขาวถูกประครองยกขึ้นข้างนึง พร้อมกันกับสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ที่เบียดผ่านเข้ามาในกายโดยไม่มีการทำเตรียมพร้อมใดๆล่วงหน้า มือบางจิกเกร็งลงกับไหล่กว้างแน่น ระบายความเจ็บปวดที่แล่นปราดไปทั้งร่าง
“อา...สุดยอด..ผ่านมาเยอะยังแน่นแบบนี้ .. อาาา”ร่างสูงครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจ ขยับสะโพกถอนกายออกมาจนเกือบจุดก่อนกระแทกกลับไปหนักหน่วงรุนแรงในทุกจังหวะเข้าออก เรียวปากหยักซุกไซร้ไล้เล็มความหวานจากกายบาง ขบเม้มฝังรอยช้ำไว้ทั่วตัวฮยอกแจ
“ฮึก..เฮ...เจ็บ...อ่ะ..อ่ะ..เจ็บบ..”ฮยอกแจครางขอเสียงสั่น หยาดหยดน้ำตาไหลจากดวงตาคู่แดงก่ำน่าสงสาร ช่องทางรักที่ไม่มีใครเคยมีสิทธิแตะต้องเมื่อถูกรุกล้ำอย่างรุนแรงฉีกขาดจนเลือดสีสดไหลจากปากแผลเป็นทางตามเรียวขาเนียน
“เจ็บ? มึงรู้จักคำนี้ด้วยเหรอ..ของเล่นมันมีความรู้สึกรึไง? หึ..”
“อ่ะ..กูเจ็บ..อึก..อื้ออ..”
“มึงมันเป็นแค่ของเล่น กูอยากจะทำอะไรมันก็สิทธิของกู มึงไม่มีสิทธิเถียง”ถ้อยคำเย็นชาพร้อมกับจังหวะขยับสะโพกกระแทกเข้าออกหนักหน่วงรุนแรง เสียงกรีดครางลั่นจากเรียวปากสีสดบ่งบอกถึงความเจ็บปวดทรมาณที่มีมากกว่าความเสี่ยวซ่านแตกต่างจากอีกฝ่าย
ร่างสูงจับคนตัวเล็กในอ้อมแขนเปลี่ยนท่าโดยไม่สนใจความสมัครใจ พลิกกายบางให้หันหน้าหากำแพง ประคองสะโพกให้โก่งโค้งเผยช่องทางรักด้านหลังที่มีแผลฉีกขาด ไร้ความปราณีใดๆร่างสูงตะบี้ตะบันขยับกายเข้าออกทั้งเร็วและรุนแรง
“มะ..ม่ายย..เจ็บ..ฮื้อออ..ปล่อยกู...ปล่อยกู...”ฮยอกแจครางลั่นขอร้องเสียงพร่าด้วยความทรมาณที่ถาโถมเข้ามาในร่าง ยิ่งเห็นร่างบางร้องขออย่างทรมาณทงเฮยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น อารมณ์ดิบเถื่อนความต้องการอยากปลดปล่อยเพิ่มขึ้นสูง มือหนาบีบเคล้นบั้นท้ายกลมกลึงหนัก
“อาาาา”ร่างสูงถอนแกนกายจากช่องทางรักคับแคบจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับลงไปแรงๆอีกสองสามที ก่อนสะโพกปอดกระตุกเกร็งฉีดพ่นสายธารอุ่นร้อนเข้าไปในร่างบางจนเจ้าของร่างกระตุกวาบ
“อ๊ะ...”ฮยอกแจครางแผ่วเมื่อแกนกายใหญ่ถูกถอนออกจากร่าง มือหนาที่เคยประคองสะโพกบางละออกห่าง เป็นผลให้กายบอบบางที่ไร้เรี่ยวแรงลงไปกองทรุดลงกับพื้นดูน่าเวทนา
ทงเฮมองภาพผลงานของตนแล้วยกยิ้มเยาะ ยิ่งเห็นคนตัวเล็กร้องไห้หนักมากเท่าไร ก็ยิ่งชอบใจที่ได้กลั่นแกล้ง รู้ทั้งรู้ว่าฮยอกแจรักเขามากแค่ไหน แต่ร่างบางก็ยังดื้อดึงกล้าเถียงเขา ยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้คนอื่นแถมยังหลบหน้าอีก
...ของของเขา ก็คือของของเขา...
...ไม่มีใครสามารถแย่งลีฮยอกแจไปได้...
...ถึงแม้ว่า ฮยอกแจจะไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้เขาเลยก็ตาม...
“กู..ทำผิดอะไร..ฮึก..”
“มึงผิด..ผิดที่รักกูตั้งแต่ต้น..”
“แล้วมึงก็จำได้ไม่ใช่เหรอ..”

“ว่ากูน่ะ.. ไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องกับของของกู”
“แต่...กูเป็นคน กูไม่ใช่สิ่งของ”
“ใช่..มึงเป็นคน... แต่ก็เป็นคนที่กูมีสิทธิครอบครองไว้คนเดียว..
“มึงเลว..”
“ในสายตากูน่ะ มึงมันเป็นแค่ของเล่นเอาไว้ประดับตู้ให้ดูดี ก็แค่ตั้งเอาไว้ให้คนรู้ว่ากูมี แต่ไม่มีทางหยิบเอาออกมาอวดให้ใครดู”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น