[CHAPTER 6] Office..
หลังจากที่ได้พบเจอกับ ‘พี่ชาย’ ที่ขาดการติดต่อเป็นเวลาหลายปี
ฮยอกแจที่เคยพยายามซ่อนความทรงจำอันเร็วร้ายและตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอดีต
ได้ตัดสินใจกลับมาติดต่อกับจองซูอีกครั้งหลังจากถูกรบเร้า
เขามักใช้เวลายามว่างกับการออกไปนั่งคาเฟ่เที่ยวเล่นชอปปิ้งพูดคุยกับจองซูแทนการออกไปเที่ยวเล่นคนเดียวหรือนอนรอคนรักอยู่บ้าน
ถึงแม้ว่าเขากับจองซูจะมีความสนิทสนม
และออกไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง
แต่ฮยอกแจก็ยังคงตระหนักถึงคำเตือนและสิ่งต้องห้ามไม่พึงกระทำที่ถูกกำหนดโดยคนรักอยู่เสมอ
เขาไม่เคยเอื้อนเอ่ยถึงชีวิตความเป็นอยู่
ที่พัก คนรัก แม้กระทั่ง ‘ครอบครัวอุปการะ’ อย่างที่เขาเคยบอกไว้แม้แต่ครั้ง
เพราะเขารู้ดีว่าหากเขาพลั้งพลาดอะไรไปเพียงเล็กน้อย
ปัญหาที่ตามมาอาจจะใหญ่เกินกว่าที่เขาและคนรักสามารถแก้ไขได้
...ขอโทษนะฮะ พี่จองซู..แต่ยังไงคนที่สำคัญกับผมที่สุดในตอนนี้ก็คือตัวผมเองและทงเฮ...
ร่างเล็กในชุดทำงานเรียบร้อย
เสื้อเชิตสีฟ้าอ่อนพอดีตัว ทับด้วยเสื้อสูทดำที่สั่งตัดพิเศษอย่างดี
ผูกไทด์สีเข้มลายเรียบ เข้ากันกับกางเกงสแลคสีดำเข้ารูป
ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกเซตให้เข้าทรง ขาเรียวเล็กก้าวฉับๆเข้าไปในห้องประจำตำแหน่งประธานบริษัทของคนรัก
“ทำไมไม่ปลุกชั้น”เมื่อเข้ามาด้านใน
คนตัวเล็กก็ตั้งคำถามหาเรื่องคนรักพร้อมทำหน้าไม่พอใจ
“ก็เห็นนอนหลับสบาย ใครจะรู้ว่าอยากจะมาทำงานล่ะ”ทงเฮตอบรับเสียงเรียบ
สายตาคมกวาดมองเอกสารในแฟ้มตรงหน้าไม่ได้เงยขึ้นมามองคนมาใหม่แม้แต่น้อย
“ก็เมื่อคืนบอกแล้ว เคยฟังรึเปล่าล่ะ”ฮยอกแจว่าเสียงขุ่นเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานประจำตำแหน่งเลขา
ที่นานๆครั้งเขาจะเข้าไปใกล้ บนโต๊ะมีแฟ้มงานสองสามอย่างวางอยู่
มือบางพลิกเปิดไปมาเล่นๆ ไม่ได้คิดจะใส่ใจเนื้อหาด้านใน เพราะเนื้อหาของงานส่วนใหญ่เขาก็รู้จากทงเฮเรียบร้อยแล้ว
ตำแหน่งเลขาของเขาถูกตั้งขึ้นเพราะความเอาแต่ใจ
อ้างเหตุผลเพราะอยากจะมาทำงานและมีส่วนร่วมในบริษัทเพียงเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้วหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดก็เป็นของคุณชอง
หญิงสาวที่นั่งจัดตารางเวลาของทงเฮต่างหาก
“ก็ฟัง แต่เห็นนอนหลับสบายเลยไม่อยากปลุก”
“ก็ตลอดนั่นแหละ”
ฮยอกแจว่าพลางกอดอกไม่พอใจ
ทำไมทงเฮถึงชอบขัดใจเขานักนะ จะยอมตามใจ มาง้อ มาพูดขอโทษสักนิดก็ไม่ได้เลยรึยังไง
จะต้องเก็กวางฟอร์มไปถึงไหนกัน
ทงเฮเหลือบมองฮยอกแจเล็กน้อยพร้อมอมยิ้ม ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นคนตัวเล็กในชุดทำงานเรียบร้อย
แม้ชุดสูทจะทำให้ร่างเล็กสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสวยหวานตามธรรมชาติลดน้อยลงแม้แต่น้อย
“มาแล้วก็ทำงานสิ อย่ามัวแต่งอน”แกล้งดุเสียงขรึม
ยกยิ้มน้อยๆมุมปาก แม้รู้ดีว่าคนตัวเล็กไม่ชอบให้ดุ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแกล้ง
“ยังไม่มีอารมณ์ทำ”
“งั้นจะมาทำไม มาเพื่อรออารมณ์เนี้ยนะ?”
“ก็ไม่อยากทำ ทงเฮจะทำงานก็ทำไปสิ เกี่ยวอะไรกับชั้น”
“แล้วเลขาต้องทำอะไรบ้าง ทำไมไม่ทำงานล่ะ”
“ไม่รู้จะทำอะไร ไม่มีอะไรทำ เบื่อ”เอ่ยพร้อมทำหน้าเซ็ง
ถ้าต้องให้เขามาทำงานจดนู่นจดนี่ ติดต่อตารางเวลาน่ะเขาไม่เอาด้วยหรอก
แค่ให้อ่านแฟ้มหนาๆแบบทงเฮเขายังไม่อยากจะทำด้วยซ้ำ
“อ่านอะไรน่ะ ยอดขายก็ดีทำไมยังต้องอ่านอะไรนักหนา”ฮยอกแจเอ่ยถามขึ้นเมื่อร่างสูงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มงานเสียที
เปิดผ่านแฟ้มนึงเสร็จก็หยิบแฟ้มใหม่มาอ่านต่อ เป็นตั้งประธานบริษัททำไมต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆขนาดนั้นกันนะ
“เชคอะไรนิดหน่อยน่ะสิ ถ้าเบื่อทำไมไม่หาอะไรทำล่ะ”
“ไม่มีอะไรทำ”
“งั้นกลับบ้านสิ”
“ไล่ชั้นเหรอ?”ขึ้นเสียงตอบกลับด้วยความไม่พอใจ
กล้าดียังไงมาไล่เขาให้กลับบ้านกัน
“เปล่า ก็เห็นบอกไม่มีอะไรทำนี่”ตอบกลับตามความจริง
ยกยิ้มมุมปากท้าทายคนรัก อยากรู้นัก ว่าลองขัดใจขนาดนี้จะทำยังไงต่อ
“เฮอะ จะให้ทำอะไรล่ะ แฟ้มงานพวกนี้ก็อ่านตั้งสามสี่รอบแล้ว”ฮยอกแจสบถสีหน้าไม่พอใจ เหลือบมองแฟ้มงานบนโต๊ะด้วยหางตาเล็กน้อย คำว่า ‘อ่าน’ ในความหมายฮยอกแจก็คือเปิดผ่านๆ อ่านเพียงเนื้อหาที่มีใจความสำคัญเท่านั้น
“แน่ใจว่าอ่าน?”ละสายตาจากแฟ้มงานขึ้นมองตาคนรักอย่างรู้ทัน
“เอ๊ะ จะว่าว่าชั้นไม่ตั้งใจอ่านงั้นเหรอ?
“อื้มฮึ”พยักหน้ารับยิ้มๆก่อนจะก้มลงอ่านงานต่อ
ทิ้งให้คนสวยที่ไม่มีอะไรทำได้แต่นั่งเซ็งเล่นโทรศัพท์มือถือเงียบๆ
“เฮ้ออออออออ นี่มันจะพักเที่ยงแล้วนะ น่าเบื่อจริงเลย”ฮยอกแจถอนหายใจเสียงดังพร้อมกับโยนโทรศัพท์เครื่องหรูลงบนโต๊ะ
ร่างบางนั่งเท้าแขนเกยคางมองคนรักเบื่อๆ
ก่อนจะคิดหาวิธีเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์บ้างานตรงหน้า
“ทงเฮอา..”เรียกชื่อคนรักเสียงหวาน
ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าคมนิ่ง
“หื้ม ว่าไง”
“ไม่เบื่อบ้างเหรอ”
“ก็ไม่มีอะไรน่าเบื่อนี่ครับ”
“ไม่จริงหรอกน่า...”ฮยอกแจว่าพลางลุกขึ้นปลดเสื้อสูทตัวหนาออกวางพาดกับพนักพิงเก้าอี้
ขาเรียวบางก้าวพาร่างเล็กเข้าไปหาคนรัก สะโพกบางพิงชิดกับขอบโต๊ะตัวกว้าง
หันหน้าเข้าหาร่างสูงพร้อมยกยิ้มน้อยๆ
มือบางเลื่อนไปหยิบปากกาในมือหนาแล้วจัดการโยนไปไกล
สร้างความแปลกใจให้กับร่างสูงไม่น้อย
“หื้มม?”ใบหน้าคมเงยมองคนรักพลางเลิกคิ้วแทนคำถาม
"ทำงานเยอะไปแล้วนะ”ร่างเล็กก้มลงเอ่ยกระซิบข้างใบหู
ก่อนจัดการปิดแฟ้มงานหนาลงแล้วดันออกห่าง ดวงตาคู่สวยสบตาคนรักนิ่ง มือบางยกขึ้นลูบแก้มตอบช้าๆ
ลากไล้ปลายนิ้วเรียวไปตามโครงหน้าแผ่วเบา
"แล้วจะให้ทำไงล่ะครับคนดี"ร่างสูงถามกลับพร้อมกับเลื่อนมือไปโอบเอวบาง
ยกยิ้มกรุ้มกริ่มพอใจในท่าทางของคนรัก
"คลายเครียดกันดีมั้ยล่ะ?
ทงเฮเครียดไม่ใช่เหรอ"เอ่ยถามเสียงพร่า ใบหน้าหวานเลื่อนเข้าใกล้ใบหน้าคม
ปลายจมูกทั้งสองแตะชนกันแผ่วเบา
ลมหายใจร้อนที่ได้สัมผัสปลุกไฟร้อนแห่งตัณหาราคะในกายให้ลุกโชน
มือหนาลูบไล้เอวคอดไปมา คนตรงหน้าช่างมีเสน่ห์น่าหลงใหลเกินกว่าที่จะหักห้ามใจ
“อยากคลายเครียดวิธีไหนล่ะครับ
ที่รัก”กระซิบถามเสียวแผ่ว กดริมฝีปากประกบจูบกับริมฝีปากสีเชอร์รี่สีหวาน
ขบเม้มริมฝีปากล่างเบาๆ สัมผัสความอ่อนนุ่มน่าทะนุถนอม
ไล้เล็มความหอมหวานอย่างอ้อยอิ่ง
“อื้ออ ทงเฮอย่าใจร้อนสิ”ฮยอกแจละริมฝีปากออกห่าง
พลางบรรจงกดจูบไปตามแนวแก้มคนรักช้าๆ มือเล็กยกขึ้นลูบไล้แผ่นอกหนาใต้เสื้อสูทสีเข้มชั้นดี
เลื่อนริมฝีปากอิ่มขึ้นขบเม้มใบหูแผ่วเบา
ลากไล้ลิ้นเรียวไปมาพร้อมเป่ารดลมหายใจให้อีกร่างต้องการมากยิ่งขึ้น
“อืมมม..”ร่างสูงครางต่ำในลำคอ
ร่างบางตรงหน้าช่างยั่วเย้าปลุกเร้าอารมณ์เขาเหลือเกิน
มือหนาเลื่อนลงลูบบั้นท้ายอิ่ม บีบเคล้นเล่นอย่างสนุกมือ
“บอกว่าอย่าใจร้อนไง..ที่รัก”กระซิบบอกอีกครา
พร้อมเลื่อนมือไปจับมือหนาออกจากบั้นท้าย
ร่างบอบบางเดินอ้อมไปทางด้านหลังของคนรัก
เบียดกายแนบชิดกับพนักพิงเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ เกยคางมนวางลงกับลาดไหล่หนา
พร้อมกับเอื้อมมือเล็กลงไปลูบแผ่นอกและหน้าท้องแกร่งไปมาปลุกเร้าอารมณ์ร้อนในกาย
จงใจเป่าลมร้อนที่ซอกคอขาว ขบเม้มเพียงแผ่วเบา อ่อนนุ่มราวกับจุมพิตจากนางฟ้า
ทงเฮหลับตาลงกัดฟันครางในลำคอเสียงต่ำ
เขาพยามยามอดกลั้น
ห้ามใจไม่ให้รั้งคนช่างยั่วเข้ามากระทำอย่างรีบร้อนดั่งที่ใจต้องการ
มือหนาทั้งสองกำเข้าหากันแน่น เสียงหายใจแรงดังขาดห้วง
หน้าท้องแกร่งเกร็งหน่วง
ยามที่สัมผัสอ่อนนุ่มของมือเรียวบางเคลื่อนผ่านลงต่ำจนเกือบถึงส่วนสำคัญ
แต่กลับละออกจากมัน ไม่ยอมสัมผัสแตะต้องแม้แต่น้อย
ร่างบางกำลังแกล้งทำให้เขาปั่นป่วน
ความต้องการของเขามันพุ่งสูงเกินจะต้านทานได้เสียแล้ว
“ต้องการเค้ามั้ยทงเฮ...”กระซิบถามข้างใบหู
กดจูบไล้ไปตามใบหน้าคม
สัมผัสคล้ายอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเร่าร้อนกระตุ้นให้เขายิ่งรู้สึกอยากสัมผัสฮยอกแจมากขึ้น
“ที่สุดเลยครับ...คนดี...”
“แล้ว..อยากให้เค้าทำยังไงเหรอ”ร่างเล็กเอ่ยถามพลางเคลื่อนตัวกลับมาพิงโต๊ะอย่างเก่า
สายตาหวานเยิ้มแสนยั่วเย้าส่งไปให้คนรักอย่างจงใจ
มือเรียวเลื่อนไปดึงเนกไทด์ของร่างสูงพร้อมออกแรงกระตุกเบาๆให้ใบหน้าคมเข้ามาใกล้
ยกยิ้มพึงพอใจก่อนกดริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากเรียว
ขบเม้มไล้เล็มริมฝีปากแผ่วเบาก่อนสอดลิ้นเล็กเข้าด้านในโพรงปากอุ่น กวาดหาความหวานระคนเร่าร้อนจากทุกซอกทุกมุมของโพรงปากอีกฝ่าย
ลิ้นเล็กเลื่อนเข้าแตะปลายลิ้นร้อน ก่อนที่ลิ้นทั้งสองจะตวัดเกี่ยวหยอกล้อ ดูดดึง
แลกเปลี่ยนสัมผัสหนักหน่วงอย่างที่ต้องการ น้ำหวานใสๆไหลจากมุมปาก
หากแต่ไม่มีผู้ใดคิดใส่ใจ
มือหนาเลื่อนขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิตสีอ่อนของร่างเล็กออกอย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญ
สอดมือผ่านรอยแยกของสาบเสื้อเข้าลูบไล้แผ่นอกเนียนไปมาสนุกมือ
สุดท้ายกลายเป็นร่างเล็กที่ละริมฝีปากออกห่าง
มือบางดันให้ร่างสูงกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม พร้อมกำชับ
สั่งไม่ให้เข้ามาใกล้จนกว่าตนจะร้องขอ แม้ทงเฮจะรู้สึกขัดใจกับสิ่งที่คนรักสั่ง
แต่เขาก็ยอมทำตามโดยไม่ขัดขืน สายตาคมจดจ้องคนรักนิ่ง
มองดูว่าร่างเล็กตรงหน้าต้องการทำอะไรต่อ
ฮยอกแจจัดการสลัดเสื้อเชิตของตนออกจากกาย
เผยให้เห็นผิวขาวเนียนตัดกับร่องรอยรักที่ถูกสร้างไว้ประปรายทั่วแผ่นอก
มือบางทั้งสองยกขึ้นสัมผัสร่างของตนช้าๆ ลูบไล้แผ่นอกไปมาแผ่วเบา
ปลายนิ้วเรียวเลื่อนเคล้นคลึงยอดอกสีหวานที่ตั้งชันด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูง
“อ๊ะ...อ๊า..อา..ทงเฮ...อื้อออ..อ๊าาา”ฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ
ปรือตามองคนรักที่นั่งจ้องมองมาที่เขานิ่งไม่วางตา พร้อมเปล่งเสียงครางพร่าเรียกชื่อคนรักไม่ขาดปาก
แผ่นอกบางแอ่นเข้าหาสัมผัสร้อนแรงที่ปลุกเร้า บิดกายแอ่นไปมาด้วยความเสียวกระสัน
“ฮยอกแจ..จะยั่วเกินไปแล้วนะ”ทงเฮกัดกรามแน่น
มองดูคนรักยืนพิงโต๊ะทำงาน กระตุ้นอารมณ์ปลุกเร้าร่างกายด้วยตนเอง
ทั้งสีหน้าและเสียงครางบ่งบอกถึงความต้องการที่มาคุ
เพียงแต่มันยังไม่มากพอที่คนตัวเล็กจะเรียกร้องให้เขาเข้าไปช่วย
“ซี้ดดด..อา..ทงเฮ...อา...อา...รู้สึกดี...จัง..อื้อ...”ฮยอกแจครางหวาน
ก่อนจะเลื่อนมือข้างนึงปลดกางเกงสแลคเข้ารูปและชั้นตัวบางออกจากร่าง
ร่างกายเปลือยเปล่าผิวขาวเนียนน่าสัมผัสถูกเผยออกอยู่ตรงหน้า
ส่วนอ่อนไหวที่ตั้งชันขึ้นบ่งบอกว่าฮยอกแจต้องการปลดปล่อยมากเพียงใด
“อ๊ะ..อาาา..อา..ทงเฮ...เค้า..สวย..อ๊ะ...มั้ยย..อึก..”ร่างบางเอ่ยถามแม้เสียงจะขาดหายเพราะถูกเสียงครางดังขึ้นแทรก
มือเรียวค่อยๆยันกายบอบบางขยับขึ้นไปนั่งบนขอบโต๊ะทำงานกว้าง ขาเรียวบางค่อยๆแยกออกจากกัน
พลางยกสะโพกขึ้นสูง เผยให้เห็นส่วนลับที่มีเพียงทงเฮคนเดียวที่มีสิทธิสัมผัสมัน
ช่องทางสีหวานที่ซ่อนอยู่ทางด้านหลังขมิบเข้าหากันแน่นคล้ายเรียกร้องต้องการบางสิ่งบางอย่างให้ล่วงล้ำเข้าไปด้านใน
“อา..ทงเฮ..ต้อง..อื้อออ..ต้องการ..คะ..เค้ามั้ย..อ่ะ..”ฮยอกแจเอ่ยถามเสียงพร่า
ดวงตาคู่สวยปริ่มด้วยน้ำตาหยาดใสช้อนมองคนรักออดอ้อนดูน่ารักน่าเอ็นดู
เพียงแค่ได้ยินคำถามจากปากคนรัก
ร่างสูงก็ไม่รอช้าเคลื่อนกายเข้าทาบทับ แนบกายเข้าหาอีกฝ่ายทันที
ใบหน้าคมก้มลงครอบครองยอดอกสีหวานด้วยโพรงปาก ดูดดุนไล้เลียมันราวกับขนมหวานชั้นเลิศ
ปลายลิ้นตวัดเลียหนักหน่วง กระตุ้นความต้องการและเสียงครางของคนรักให้เพิ่มมากขึ้น
ร่างเล็กดิ้นเร่าใต้ร่างกายแข็งแกร่งด้วยความเสียวซ่าน
แอ่นแผ่นอกบางเข้าหาพร้อมกับมือบางที่กดศีรษะอีกฝ่ายให้สัมผัสรุกล้ำร่างกายตนมากยิ่งขึ้น
เสียงครางกระเส่าของร่างเล็กดังสอดคล้องล้อรับกับเสียงที่เกิดจากการขบเม้มยอดอกบาง
มือหนาทั้งสองเร่งปลดกางเกงพร้อมกับชั้นในสีเข้มของตนออก
เผยให้เห็นส่วนแข็งขืนที่ตั้งชันพร้อมกับบทรักที่กำลังจะเกิด
“ทะ..ที่รัก..อา.อา..ทงเฮ..อ๊ะ..อา...”ฮยอกแจครางเสียงหวานพลางแยกขาเรียวออกกว้างเปิดทางให้คนรักแทรกกายเข้าหา
เขารู้ดีว่าทงเฮกำลังต้องการอะไร เพราะเขาะเองก็ต้องการมันอยู่เช่นกัน
ร่างสูงจับส่วนแข็งขืนถูไถกับปากทางเข้าช่องทางคับแน่น
สร้างความผ่อนคลายให้กับร่างบางเล็กน้อย
ก่อนที่จะค่อยๆกดกายฝังเข้าหาความคับแน่นด้านใน ช่องทางรักสีหวานขมิบตอดรัดแกนกายเขาแน่นไม่ต่างจากครั้งแรกที่ได้แทรกผ่านเลยสักครั้ง
ฮยอกแจกรีดร้องครางลั่นออกมาด้วยความอึดอัดระคนเสียวซ่าน
แม้ว่าเขาจะร่วมรักกับทงเฮมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน แต่เพราะความใหญ่โตของคนรัก
เขาจึงไม่คุ้นชินกับมันเสียที มือบางจิกเกร็งแน่นที่ไหล่แกร่ง ระบายความเจ็บปวดระคนเสียวกระสันที่ได้รับ
“อื้มมม..ฮยอกแจ...ท่านี่...เข้าได้ลึกชะมัด..อาาาาา”ร่างสูงกระซิบบอกคนร่างเสียงพร่า
มือหนาสอดเข้าประครองสะโพกของร่างเล็กเอาไว้
ระวังไม่ให้บทรักครั้งนี้ไม่สร้างความเจ็บปวดให้คนรักตัวเล็กตรงหน้า
ก่อนที่ร่างสูงจะค่อยๆเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆจังหวะเนิบนาบให้ฮยอกแจปรับตัว
ร่างเล็กแอ่นยกสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายเมื่อรู้สึกผ่อนคลายปรับตัวเข้ากับการสอดใส่ได้เรียบร้อย
เรียวขาบางทั้งสองยกขึ้นเกี่ยวรอบเอวร่างสูงเอาไว้
ยิ่งทำให้ร่างสูงสามารถแทรกกายเข้าได้ลึกมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นคนรักปรับตัวพร้อมกับการสอดใส่
ร่างสูงก็เพิ่มจังหวะในการขยับเข้าออกเร็วมากขึ้น
เสียงครางหวานกระเส่าที่ดังจากคนในอ้อมกอดปลุกเร้าความต้องการให้ยิ่งพุ่งสูง
ก้มลงประกบริมฝีปากกับกับริมฝีปากคนรัก สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวาน
ตวัดลิ้นเกี่ยวรัดลิ้นเล็ก แลกสัมผัสจูบเร่าร้อนแทนคำบอกรัก
และความรู้สึกในใจอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
แขนเรียวบางยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง
เบียดกายเพรียวบางเข้าชิดกับร่างแกร่งอย่างออดอ้อน
สะโพกบางขยับตอบรับแรงกระแทกขยับเข้าออกหนักหน่วงในช่วงล่าง
เสียงครางหวานกระเส่าเคล้ากับเสียงกระทบกันของเนื้อไปทั่วห้องทำงาน
ในเวลานี้ทั้งสองไม่คิดสนใจว่าสถานที่ที่นี่คือที่ไหน
และไม่นึกคิดหาเหตุผลหากมีใครจะเข้ามาเห็นบทรักของทั้งคู่
เขาเพียงแค่ต้องการสัมผัสรัก ส่งมอบความรู้สึกผ่านความเร่าร้อน
หนักหน่วงจากสัมผัสทางร่างกาย
ร่างกายบอบบางเพรียวเล็กกอดรัดกระหายหาอ้อมกอดสัมผัสจากร่างสูง เช่นเดียวกับร่างสูงที่กอดกระชับร่างเล็กเอาไว้แน่นบดเบียดกายเข้าหาอีกฝายไม่ยั้ง
จังหวะเร็วแรงและหนักหน่วงส่งพาให้อารมณ์รักของทั้งสองพุ่งขึ้นสูง
ฝั่งฝันที่ใฝ่หาเข้ามาใกล้ในทุกครั้งที่ขยับส่งรับแรงกระแทก
ก่อนที่ร่างสูงจะยกสะโพกบางขึ้นจากโต๊ะ พลิกให้คนตัวเล็กนั่งทาบทับอยู่ด้านบน
เคลื่อนกายตนไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานตัวเก่า
เปลี่ยนให้ฮยอกแจเป็นฝ่ายนำในบทรักครั้งนี้บ้าง
ฮยอกแจขยับสะโพกขึ้นลงหาอีกฝ่ายเนิบนาบ
มือแกร่งคอยประคองสะโพกอิ่มนำทางให้คนรักเล็กในช่วงแรก
ก่อนที่ร่างเล็กจะเริ่มเป็นฝ่ายควบคุมเกมรักเร่าร้อนครั้งนี้ สะโพกบางเร่งความเร็วกระแทกกระทั้นหาแกนกายของร่างสูงเร็วและหนักหน่วง
สะโพกบางส่ายวนขยับยั่วเย้าคนรักอย่างกระหายหา
“อ๊ะ..อ๊างงง”ร่างบางครางลั่นเมื่อส่วนแข็งขืนของคนรักขยับถูกจุดไวต่อสัมผัสภายในช่องทางของตน
ความเสียวกระสันกระหายหาเข้าครอบงำกายทั้งคู่ ฮยอกแจขยับสะโพกหนักหน่วงและรุนแรง
เน้นย้ำให้ส่วนนั้นของคนรักสัมผัสกับจุดกระสันในทุกๆจังหวะ
มือหนาเลื่อนกอบกุมส่วนอ่อนไหวของคนรักขยับรูดรั้งตามความยาวเข้าออกตามจังหวะที่ร่างเล็กขยับสะโพกกระแทกกระทั้นกายเข้าลงมา
จุดสูงสุดปลายฝันที่ทั้งคู่ต้องการกำลังเข้ามาใกล้ในอีกไม่ช้า
ช่องทางคับแน่นตอดรัดแกนกายเขาจนอดกลั้นความต้องการเอาไว้ไม่ไหว
เสียงกรีดร้องครางลั่นของทั้งสองดังขึ้น
ในจังหวะที่ร่างเพรียวกระตุกเกร็งฉีดน้ำสีขาวยุ่นพุ่งออกมาเปรอะไปทั่วกล้ามท้องแกร่ง
พร้อมกันกับสายธารอุ่นร้อนที่ถูกฉีดเข้าไปด้านในช่องทางรักอย่างรุนแรง จุดสูงสุดทางอารมณ์
สวรรค์ที่ทั้งคู่ต้องการได้มาหาเขาทั้งคู่
ร่างเล็กเอนซบอกแกร่งอย่างเหนื่อยอ่อน
ดวงตาคู่สวยหลับลงสนิท นั่งหอบหายใจแรง ช่วงชิงไขว่คว้าอากาศอย่างหมดแรง
ปอยผมที่โซมด้วยเหงื่อลู่แนบไปกับแก้มใส บทรักเร่าร้อน
อุณหภูมิความร้อนของทั้งสองค่อยๆลดลงตามอากาศรอบๆ
“หายเครียดรึยังน่ะ”ฮยอกแจถามเสียงแผ่ว
แม้ดวงตาคู่สวยจะยังไม่ลืมขึ้นก็ตาม
“ทำเป็นพูดดีไป”
“พูดดีแล้วรักมั้ย”
“รักสิครับ คนดี”ทงเฮเอ่ยบอกรักเสียงนุ่ม
กดจูบแผ่วเบาที่หน้าผากหมด ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยปอยผมคนรักทัดกับใบหู ยิ้มน้อยๆก่อนจะประทับจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากอิ่มแดง
หลังจากที่ทั้งสองพักเหนื่อยจากกิจกรรมเร่าร้อนได้สักพัก
ฮยอกแจก็เป็นฝ่ายลุกจากตักและเริ่มใส่เสื้อผ้าแต่งตัว
ก่อนจะเอ่ยปากบอกคนรักว่าอยากทานข้าว
เพราะมันเลยเวลาข้าวเที่ยงของตนมาได้เกือบจะชั่วโมแล้ว ร่างสูงจึงต้องตามใจด้วยเหตุผลง่ายๆว่า
เขาเองได้ทานฮยอกแจจนอิ่มแล้ว ฮยอกแจเองก็ควรได้ทานอาหารจนอิ่มบ้าง
“คุณชอง”เมื่อเปิดประตูออกจากห้องประธาน
ทงเฮก็เอ่ยเรียกพนักงานสาวที่มีโต๊ะประจำตำแหน่งอยู่หน้าห้องของเขาทันที
“ค่ะ...คะ?”พนักงานสาวขานรับพร้อมรอยยิ้มหวาน
“ชั้นกับฮยอกแจจะออกไปทานข้าว
มีอะไรก็ฝากด้วยละกันนะ”ทงเฮสั่งเรียบๆก่อนจะหันหลังเดินโอบเอวบางของคนรักพาคนช่างยั่ว
ช่างเอาแต่ใจไปหาอะไรทาน หากแต่ทงเฮไม่ได้สังเกตถึงสีหน้าของพนักงานสาวเลยว่า
ใบหน้าเธอแดงใบถึงไหนต่อไหน
หญิงสาวขานรับคำสั่งของเจ้านายก่อนจะยิ้มอายๆเมื่อคิดถึงภาพที่เกิดขึ้นในห้องประธานเมื่อสักครู่
เธอเพียงแค่ตั้งใจจะนำเอกสารที่บริษัทคู่ค้าแฟกซ์มาให้ไปให้ตามหน้าที่เท่านั้น
แต่กลับกลายบังเอิญเจอภาพอย่างอื่นแทนไปโดยไม่ตั้งใจแทน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น