[CHAPTER
12] REVENGE
“โอ้ยย
ทำไมรถติดจังนะ”ฮยอกแจบ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด
ยิ่งมองเวลาในมือถือก็ยิ่งอารมณ์เสีย
เท่าที่ฟังจากข่าวทางวิทยุที่คนขับรถแท็กซี่เปิด
ก็รู้คร่าวๆว่ามีอุบัติเหตุรถชนบ้าบอตรงทางข้างหน้าจึงทำให้จราจรติดขัด
และเขาเองก็ต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมงกับการติดแหงกบนแท๊กซี่นี่
เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เขาเดินออกจากบ้านของจองซูมาอย่างไม่สบอารมณ์
ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ความเสียใจอาลัยอาวรณ์ที่เคยมี
ถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้น
ฝ่ามือเรียวของจองซูฟาดเข้าที่หน้าเขาจนเป็นรอยแดง
พร้อมถ้อยคำดูถูกทงเฮที่มันยังก้องอยู่ในประสาท ‘ทงเฮของแกมันก็แค่ไอ้งั่งทำอะไรเองไม่เป็นนั่นแหละ! ไม่มีทางที่จะมาเทียบเท่าซีวอนได้หรอก’
ในตอนนี้เขาไม่สนใจในเรื่องการเอาชนะแก้แค้นจองซูกับซีวอน
แต่เขากำลังคิดถึงทงเฮที่ตอนนี้อาจจะจะยุ่งกับงานที่บริษัท
หรือไม่ก็เสียใจกับสิ่งที่เขาพูดไปในวันนั้น นึกแล้วก็โกรธตัวเองที่หูเบาไปเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่จองซูพูด
ไม่ยอมฟังเหตุผลคนที่รักเขา ใส่ใจเขาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
‘ทงเฮ..ฮยอกแจขอโทษนะ’
มือบางกดโทรศัพท์เข้าไปที่บ้านทงเฮกี่ครั้งๆก็ไม่มีใครรับ
ลองโทรเข้ามือถือของมินโฮกับคยูฮยอนก็ไม่เข้า โทรศัพท์มีเป็นสิบๆจะมาแบตหมดพร้อมกันอะไรวันนี้เหรอ
ยิ่งคิดยิ่งโมโห เขาก็แค่จะโทรบอกใครสักคนให้รู้ว่าเขากำลังจะกลับไปที่บ้านของทงเฮ
ให้ช่วยถ่วงเวลาไม่ให้ทงเฮกลับถึงบ้านก่อนเขา
แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆก็ดูจะไม่เป็นใจกับเขาสักเท่าไร
“โธ่เว้ยยย รถติดอะไรนักหนานะ”
“ใจเย็นๆสิครับคุณ อีกไม่นานก็พ้นแล้วครับ”
“ให้มันไวๆล่ะ เหยียบได้เท่าไรก็เหยียบเลยนะ”
ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก
เมื่อรถแท็กซี่ขับผ่านช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมา
คนขับก็เร่งความเร็วรีบไปส่งผู้โดยสารที่จุดหมายปลายทาง
ตลอดทางฮยอกแจพร่ำบ่นเร่งคนขับไม่หยุด เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้านร่างเล็กก็รีบยื่นเงินจ่ายให้กับคนขับก่อนจะวิ่งเข้าบ้านไปอย่างคนใจร้อน
“คุณฮยอกแจ!!!”ลูกน้องของทงเฮแตกตื่นเมื่อเห็นร่างบางของเจ้านายที่หายไปเป็นเดือน
แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ใส่ใจในเสียงเรียกเหล่านั้นแม้แต่นิด
ขาเรียวเล็กรีบก้าววิ่งเข้าไปในตัวบ้าน
“ทงเฮอยู่ไหน?! เขากลับมารึยังน่ะ
วันนี้เขาจะกลับมากี่โมง?”ฮยอกแจรัวคำถามใส่แม่บ้านคิมที่ยังตกใจไม่หาย
มือบางจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงวัยกลางคนไว้แน่น
ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์ร้อนที่ยังไม่หายหรือเพราะอะไร
ฮยอกแจควบคุมสติให้ใจเย็นลงไม่ได้เลยสักนิด แม้จะรู้ว่าถึงเขารีบร้อนไปก็ไม่ได้ช่วยให้ทงเฮรีบกลับมา
แต่เหมือนว่าตอนนี้เขาถูกอารมณ์เข้าครอบงำ มากกว่าการใช้เหตุผลแล้ว
“เดี๋ยวค่ะคุณฮยอกแจ
คุณชายเพิ่งออกไปได้ไม่นานค่ะ”
“ห๊ะ?
นี่มันบ่ายแล้วทงเฮจะออกไปทำงานตอนบ่ายทำไม? เขาออกไปไหนน่ะ”
“หะ..เห็นคุณชายบอกว่าจะไปที่บริษัทของตระกูลเชวน่ะค่ะ
เธอได้รับโทรศัพท์จากคุณมินโฮก็รีบหุนหันพลันแล่นออกไปเลย”
“ห๊ะ?? ตระกูลเชว? เขาไปทำไมน่ะ”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะคุณฮยอกแจ
คุณชายไม่ได้บอกอะไรเลย ทำไมคุณฮยอกแจไม่โทรเข้ามือถือของคุณชายละคะ”
“โอ้ยย เออ ช่างเถอะๆ
ไปบอกคนรถสักคนให้รีบเอารถออก ชั้นจะไปหาทงเฮ ภายในสามนาที เร็ว!!!”ฮยอกแจสบถออกมาอย่างหัวเสีย อะไรก็ไม่ทราบ
อะไรก็ไม่รู้ นี่ทงเฮจ้างแม่บ้านเอาไว้แค่เฝ้าบ้านอย่างเดียวรึไงนะ
“ค่ะ
ได้ค่ะคุณฮยอกแจ”รับคำก่อนที่แม่บ้านคิมจะรีบวิ่งออกไปตามคนรถตามคำสั่ง
ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาลองกดโทรหาคยูฮยอนอีกครั้ง
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ฮยอกแจยิ้มออก อย่างน้อยๆก็โทรติดแล้วล่ะน่า..
“ยอบอเซโย”
“นี่! เมื่อกี้ทำไมโทรไม่เข้า ฮะ!!
น่ารำคาญจริงๆเลยนายน่ะ”เมื่อปลายสายตอบรับฮยอกแจก็สบถออกมาอย่างหัวเสีย
“หะ..หา??”ปลายสายอุทานขึ้นอย่างงงงวย
“ชั้นฮยอกแจไงเล่า จำไม่ได้รึไง?! แล้วตอนนี้อยู่กับทงเฮใช่มั้ย
ไม่ต้องบอกเขานะว่าชั้นโทรไปน่ะ รออีก 20 นาทีเดี๋ยวชั้นจะไปหา”
“ไม่ได้นะครับ มันเป็นงานบริษัท
คุณฮยอกแจจะมาทำไมครับ”
“งานบริษัทแต่ว่ามันเกี่ยวกับที่ชั้นหนีไปต่างหากล่ะ
ไม่รู้รึไงว่าบริษัทนั้นมันเล่นไม่ซื่อ”
“เดี๋ยว เดี๋ยวนะครับ
คุณฮยอกแจหมายถึงเรื่องความสัมพันธ์ของคุณจองซูกับคุณซีวอนรึเปล่า”
“หื้มม? นายรู้อย่างนั้นเหรอ
ทงเฮก็รู้ด้วยรึเปล่าน่ะ”
“ครับ
ที่คุณชายจะไปพบกับคุณซีวอนก็ด้วยเรื่องนี้น่ะครับ”
“เอ้อ งั้นก็ดี
ถ้าอย่างนั้นชั้นจะไปหาเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“ไม่ได้นะครับ มาไม่ได้นะครับ
คุณชายรู้คงโกรธแน่”
“ชั้นบอกว่าชั้นจะไป เอ๊ะ! เดี๋ยวนี้ทงเฮดูแลคนแบบไหนนะ ทำไมไม่ฟังคำสั่งเลย
ตกลงแค่นี้นะ?
ถ้าทงเฮรู้เรื่องชั้นก่อนละก็
ชั้นเล่นงานนายแน่”ฮยอกแจสรุปอย่างรวดเร็วก่อนจะกดตัดสาย
พลันสายตาเหลือบไปเห็นรถที่มาจอดรอก็รีบก้าวเท้าไปขึ้นรถ
“ภายใน 20 นาที
ถ้าชั้นยังไม่ถึงบริษัทตระกูลเชวบ้าบออะไรนั่น
แกโดนไล่ออกแน่”คำขู่จากเรียวปากอิ่มทำเอาคนขับรถถึงกับเหงื่อตก
“ครับ”
ฮยอกแจยกยิ้มมุมปากน้อยๆ
เขารู้สึกดีที่ได้กลับมาใช้ชีวิต มีนิสัยแบบเก่า ไม่ต้องคอยเก็บตัวอยู่คนเดียว
นั่งหายใจทิ้งไปวันๆ เอาแต่นั่งร้องไห้เสียใจ คิดอะไรงี่เง่า จมอยู่กับความคิด
ข้าวปลาก็กินแค่นิดๆหน่อยๆ ทำตัวเป็นนางเอกซีรี่ย์แบบนั้น
‘ฮยอกแจคนที่เข้มแข็งกลับมาอีกแล้ว’
ร่างบางคิดอะไรสักพักก่อนจะหยิบมือถือออกมากดพิมพ์ข้อความแล้วส่งไปหา‘อดีตพี่ชาย’ พร้อมยกยิ้มร้ายๆด้วยความสะใจ
‘ผมกำลังไปหาซีวอนของพี่อยู่ล่ะพี่ก็รีบๆมาดูฉากดราม่าด้วยนะ
คงสนุกน่าดูเลย’
“เชวซีวอน..วันนี้ชั้นมาขอตกลงสัญญาสงบศึกกับนาย
บริษัทนายต้องการจะลงทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไหนก็ตามใจเลย
ชั้นจะไม่เข้าไปตัดหน้าอีก
แต่นายต้องบอกจองซูให้พาฮยอกแจมากลับมาหาชั้น”ร่างโปร่งในชุดสูทสีเข้มเอ่ยถึงประเด็นสำคัญด้วยสีหน้าจริงจัง
เขาใช้เวลาที่เดินทางจากบ้านมาที่บริษัทนี้ครวญคิดข้อเสนอง่ายๆที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
แม้ว่าการทำข้อตกลงแบบนี้จะทำให้ผลประโยชน์ทางธุรกิจบริษัทของเขาจะดิ่งลงเหว
เสียเครดิต หรือย่ำแย่ขนาดที่ต้องปิดตัวลง
เขาก็ตัดสินใจแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าถ้าหากเขาได้ตัวฮยอกแจกลับมา
เกมธุรกิจสกปรกแบบนี้เป็นสิ่งที่นักธุรกิจบริษัทใหญ่เกือบทุกคนจะต้องประสบ
สำหรับคนอื่นอาจจะยอมเสียบางสิ่งบางไปอย่างเพื่อแลกกับผลประโยชน์
แต่มันไม่ใช่สำหรับเขา
ผลประโยชน์งี่เง่านั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับหรับทงเฮเลยสักนิด
เขายอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเพื่อฮยอกแจ
ฮยอกแจไม่ได้เป็นเพียงคนรัก
แต่ฮยอกแจเปรียบเสมือนครอบครัวของเขา เป็นครอบเพื่อน เป็นที่ปรึกษา
เป็นคนที่เขากล้าจะร้องไห้ต่อหน้า เป็นคนที่เขาเลือกที่จะรักไปจนวันสุดท้าย
ต่อให้เขามองหาใครใหม่ ก็ไม่สามารถแทนที่ของฮยอกแจได้
...คนสำคัญของทงเฮ
คือฮยอกแจเท่านั้น...
...แค่ลีฮยอกแจ เพียงคนเดียว...
“หื้มมม? คุณพูดเรื่องอะไรของนายน่ะ ฮยอกแจไหน?
แล้วคุณรู้จักจองซูได้ยังไง”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย
ไอ้เกมชั่วๆแบบนี้ทำไมชั้นจะดูไม่ออก เพราะบริษัทนายกำลังเดือดร้อนไม่ใช่เหรอ
นายถึงให้คนรักของนายมาหลอกฮยอกแจไปน่ะ ก็นี่ไง...บริษัทชั้นก็ยอมหลีกทางให้แล้ว
มันยังไม่พอกับสิ่งที่ต้องการอีกเหรอ หรือต้องการอะไรมากกว่านี้เหรอไง”
“เดี๋ยวนะ.. คุณกำลังพูดเรื่องอะไร เรืองของ MNK กับบริษัทผมมันไปเกี่ยวกับจองซูกับคนที่ชื่อฮยอกแจอะไรนั่นได้ยังไง”
“ก็จองซูแฟนนายหลอกให้ฮยอกแจเข้าใจผิดหนีไป
แล้วพอชั้นไม่มีสมาธิทำงาน ใช้เวลาตามหาฮยอกแจ บริษัทชั้นมันก็จะแย่
แล้วบริษัทนายก็จะได้ตีตื้นขึ้นมาเป็นที่หนึ่งไง
แบบนี้มันก็ชัดอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง เป้าหมายของนายก็สำเร็จแล้ว
แล้วในอนาคตชั้นก็จะหลีกทางให้นายต่อไปด้วย
ข้อตกลงง่ายๆแบบนี้บริษัทนายน่าจะสนใจไม่ใช่เหรอ”
“เรื่องของบริษัทจองซูเขาไม่เกี่ยว
คุณเอาอะไรมาพูด ถ้าผมต้องแข่งกับคุณ ผมขอแข่งด้วยความสามารถของผม
ดีกว่าต้องใช้แผนแบบนั้นนะครับ”
“นายจะบอกว่านายไม่รู้เรื่องของฮยอกแจอย่างนั้นน่ะเหรอ”
“ครับ ผมไม่รู้จักคนที่ชื่อฮยอกแจ
และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าจองซูเขาเกี่ยวข้องกับฮยอกแจยังไง”
“โกหกน่า.. พอเถอะ ชั้นอยากรีบๆกลับไปทำงาน
แค่นี้ก็เสียเวลามามากพอแล้ว ตกลงว่าข้อเสนอนี่จะตกลงหรือไม่ รีบคุยให้จบดีกว่า”
“ผมขอไม่ตกลงข้อเสนอนี่ครับ
เพราะผมไม่รู้ว่าผมตกลงแล้วผมจะไปหาฮยอกแจมาให้คุณได้จากที่ไหนเหมือนกัน”
“ก็จากที่นี่ไงล่ะ”เสียงหวานพร้อมกับร่างเล็กที่เปิดประตูห้องประธานบริษัทเข้ามากะทันหันทำให้ร่างสูงทั้งสองหันไปมองด้วยความตกใจ
“ฮยอกแจ...มาได้ยังไงกันน่ะ”ทงเฮเอ่ยเรียกชื่อคนรักอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“คุณ?? มาได้ยังไงครับ?”
“มาได้ยังไงมันไม่สำคัญหรอกนะ..
ชั้นรู้แค่ว่าจองซูแฟนของเชวซีวอนน่ะ หลอกชั้นเอาไว้เยอะเลยล่ะ
หลอกให้ชั้นเข้าใจทงเฮผิดไม่พอ
ซ้ำยังหาบ้านพักให้ด้วยล่ะ”ฮยอกแจเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกข้างๆทงเฮ
“วันนี้ชั้นเองก็เพิ่งจะรู้ความจริงเหมือนกัน
และเขาก็บอกด้วยนะ ว่าที่ทำๆลงไปทั้งหมดน่ะก็เพื่อปกป้อง ‘คนรัก’ของเขา เหอะ’ น่าสมเพชจังเลยนะซีวอน
ที่ต้องคอยหลบหลังคนอื่นเล่นสกปรกแบบนี้น่ะ”
“ขอโทษนะครับ ที่คุณพูดทั้งหมดนี่หมายความว่าจองซูทำให้คุณสองคนผิดใจกันแล้วเกี่ยวพันมาที่เรื่องธุรกิจใช่มั้ย?
ถ้าอย่างนั้นที่คุณมาที่นี่ เพราะคุณต้องการแก้แค้นจองซูเหรอ ผมเป็นคนรักของเขา ถ้าหากคุณมีปัญหาต้องการให้ชดใช้ยังไงก็บอกผมแทนเถอะครับ
ผมต้องขอโทษแทนเขาด้วยจริงๆ”
ซีวอนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดพร้อมกับก้มหัวให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งสอง
คิดโทษตัวเองที่เล่าเรื่องบริษัทให้คนรักฟัง
เป็นสาเหตุที่ทำให้จองซูต้องมาทำสิ่งร้ายๆเพื่อช่วยเหลือเขาแบบนี้
“จะขอโทษมันทำไมล่ะซีวอน!!! ไปก้มหัวให้มันทำไม!
ที่ชั้นทำลงไปมันไม่ใช่ความผิดของนายเลยนะ! มันเป็นความผิดของพวกมันต่างหาก!!!”จองซูที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงตวาดขึ้นเสียงดังอย่างไม่พอใจ
เห็นใบหน้าหวานของน้องชายร่างบางก็นึกแค้น
ไม่นึกเลยว่าเด็กคนที่เคยอ่อนแอโดนรังแกสารพัดในตอนเด็กจะเปลี่ยนมาร้ายและแข็งข้อกับเขามากขนาดนี้
ถ้ารู้แบบนี้ตอนเด็กๆไม่น่าเสียเวลาไปคอยดูแลเลย เสียดายเวลาชะมัด
“ความผิดของผม?
ผมไปทำอะไรให้คุณเหรอครับ”ทงเฮถามกลับ
“ก็เพราะแก! ถ้าแกไม่ตัดหน้าการติดต่อลงทุนอะไรๆของซีวอน
บริษัทซีวอนจะเข้าขั้นวิกฤตมั้ยล่ะ!?? มันจะทำให้ชั้นต้องทำแบบนี้มั้ย”
“ไร้เหตุผลที่สุด! เรื่องของธุรกิจมันเกี่ยวอะไรกับผม
แล้วลากเอาผมไปเกี่ยวอะไรด้วย!!! ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย! ลากผมไปยุ่งทำไม”ฮยอกแจแหวเสียงดัง
“ก็ถ้าชั้นไม่ทำแบบนี้ ไอ้ทงเฮมันก็ไม่รามือ
ไม่หยุดตัดหน้างานของซีวอนน่ะสิ”
“มันก็เป็นการแข่งขันกันทางธุรกิจ
คุณก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยนะครับ
ที่ยอมทิ้งความสัมพันธ์ที่มีกับน้องชายเพื่อผลประโยชน์บ้าบอของคนรักน่ะ”ทงเฮเอ่ยเรียบๆ
ใช้เหตุผลเข้าข่มอารมณ์เพื่อแก้ไขปัญหา
“ใช่! ชั้นมันเห็นแก่ตัว.
เหอะ’ ทำอย่างกับพวกแกไม่เคยเห็นแก่ตัวอย่างนั้นล่ะ
ตัดหนทางการทำงานคนอื่นแบบที่ทำ มันไม่เรียกว่าเห็นแก่ตัวเหรอไง”
“เรื่องแบบนี้มันก็ต้องใครดีใครได้ไม่ใช่รึไงล่ะ
คำพูดงี่เง่าไร้เหตุผลแบบนั้นเก็บเอาไว้ใช้เล่นละครหลังข่าว หรือไม่ก็ออดอ้อนคนของพี่เถอะ”ฮยอกแจเหน็บแนม
“ไร้สาระ!!!”
“จองซู..พอเถอะครับ.
มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรขนาดนั้นเลยนะ ถึงบริษัทผมจะแย่แค่ไหน
ผมก็เคยบอกแล้วไงว่าไม่อยากให้จองซูเข้ามายุ่ง
มันไม่ใช่สิ่งที่จองซูต้องทำเพื่อผมเลยนะ ผมจัดการปัญหาตรงนี้เองได้
ผมเคยบอกหลายครั้ง ทำไมจองซูไม่เชื่อผมเลย”ซีวอนที่นั่งเงียบอยู่นานโพล่งขึ้นเมื่อหมดความอดทน
เขายอมรับว่าเขาตกใจไม่น้อยที่จองซูยอมทำสิ่งแย่ๆแบบนี้เพื่อเขา
จองซู คนรักของเขาคือนางฟ้าที่บริสุทธิ์ขาวสะอาด
ไม่จำเป็นต้องมาแปดเปื้อนความผิดเพราะเรื่องงี่เง่าเกี่ยวกับบริษัทเขาแบบนี้ จะว่ากันง่ายๆคือเขาไม่มีความสามารถพอที่จะแข่งขันกับทงเฮมากกว่า
ทั้งเรื่องตัดหน้า เรื่องบริษัทแย่
เรื่องคู่แข่งอะไรที่จองซูอ้างมามันก็เป็นเพียงสาเหตุย่อยๆเท่านั้นเอง
“...ซีวอน..ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ
ที่ชั้นทำไปก็เพราะนายนะ”จองซูมองหน้าคนรักอึ้งๆ
“ครับ ผมรู้ว่าจองซูทำเพื่อผม
แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลย มันดูต่ำ. มันเป็นวิธีสกปรกๆ
ที่จองซูไม่ควรทำมันเลย ผมเสียใจนะ..ที่รู้ว่าจองซูเป็นแบบนี้”
“ฮึก..ทำไมล่ะ..ทำไมซีวอนไม่ดีใจล่ะ..ตอนนี้บริษัทเรา..มันกำลังไปได้สวยไม่ใช่เหรอ”เสียงสะอื้นไห้ในลำคอดังขึ้นแผ่วๆ
ช้อนตามองคนรักน้ำตาไหลอาบแก้ม
“พอเถอะครับ.. ไม่ต้องถามผมหรอกนะแค่ว่าทำไม
หันกลับไปขอโทษสองคนนั้นดีกว่า เขาคงจะเสียใจมากกว่าผมเยอะ..”
ร่างเพรียวมองใบหน้าของน้องชายสลับกับชายหนุ่มอีกคนด้วยความสับสน
ทั้งเสียหน้า เสียใจ รู้สึกผิด โกรธเคือง เรียวปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ถ้อยคำที่ซีวอนสั่งให้เอื้อนเอ่ยถูกปิดกั้นเอาไว้
ดื้อดึงยึดทิฐิคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร
“ช่างเถอะครับ แค่ได้ฮยอกแจกลับมาผมก็พอใจแล้ว”
“.....”จองซูมองหน้าทงเฮนิ่งด้วยความไม่เข้าใจ
“ซีวอน นายดูแลแฟนนายดีๆล่ะ อย่าให้ทำแบบนี้อีก
เรื่องธุรกิจของเรา.. ข้อตกลงเมื่อกี้ลืมไปซะเถอะ
เรามาแข่งกันตัวต่อตัวมันคงจะสนุกกว่านะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ตกลงไอ้ข้อตกลงบ้าๆนั่น”ซีวอนเถียง
“ช่างเถอะ ถ้าทุกอย่างมันจะลงเอยง่ายๆแบบนี้ก็ดี
นึกว่าจะต้องมีการใช้กำลังสักหน่อย”
“เหอะ’ คิดว่าเก่งแค่คนเดียวรึไง”จองซูเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ
“จองซู..พอได้แล้ว”ซีวอนปราม
“ทงเฮจบ แต่ผมยังไม่จบดีเลยนะครับพี่..
พี่จำอาไว้นะ อย่างที่ผมเคยบอก พี่ไม่มีทางเอาชนะผมกับทงเฮได้หรอก ไม่มีทาง
และไม่มีวัน พี่จำมันเอาไว้นะ”
‘เพี๊ยะ’
ร่างเล็กก้าวเท้าเข้าประชิดร่างของพี่ชาย
ยกฝ่ามือขึ้นฟาดเข้าที่ใบหน้าเรียวจนเกิดเสียงลั่น ทั้งทงเฮ ซีวอน
และจองซูเองต่างนิ่งงันด้วยความตกใจ ไม่มีใครนึกว่าฮยอกแจจะทำแบบนี้
“นี่น่ะ..สำหรับที่พี่ตบผมวันนี้”
“.....”
‘เพี๊ยะ’
“ส่วนนี่..
สำหรับที่พี่ทำให้ผมกับทงเฮเข้าใจผิดกัน”
“.....”
“แบบนี้ต่างหาก ถึงเรียกว่าหายกัน”ฮยอกแจทิ้งท้ายสั้นๆแล้วเดินออกจากห้องทำงานของซีวอนไป
“ผมขอโทษแทนฮยอกแจด้วย..
แต่ผมก็อยากจะขอเตือนเอาไว้เหมือนกัน ฮยอกแจน่ะสำคัญกับผมมาก
ถ้าหากยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มันอาจจะจะไม่ใช่แค่ตบ
แต่จะเป็นการจบชีวิตของคุณทั้งสองคน”ทงเฮเอ่ยพร้อมส่งยิ้มร้ายๆ มือหนาตบไหล่แกร่งของซีวอนสองสามที
ก่อนที่ร่างโปร่งจะหันหลังเดินตามคนรัก
“เฮ้อออ..”ซีวอนถอนหายใจเสียงดังด้วยความเหนื่อยใจ
“ขอโทษนะซีวอน..”
“ช่างมันเถอะครับ”
“....”
“ผมกับทงเฮน่ะ ถึงจะเป็นคู่แข่งกัน
แต่เราก็ยังมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันนะครับ”
“หื้ม?”
“ความรัก..
ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องคนสำคัญยังไงล่ะ”
“ซีวอน..”
“จองซูน่ะ..สำคัญกับผมมากนะครับ”
“อื้ม..เข้าใจแล้วซีวอน..ชั้นขอโทษ”
[SPECIAL PART] Dining Room
“ทงเฮ..”ร่างบางเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นทำลายความเงียบที่ปกคลุมบรรยากาศในรถ
พร้อมเขยิบกายเข้าใกล้ มือบางสะกิดเข้าที่ไหล่แกร่งเบาๆ
“หื้มม?”ขานรับในลำคอ
แม้ไม่ได้หันมองคนตัวเล็กที่ทำท่าทางออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดู
“ทงเฮอย่าเงียบสิ โกรธอะไรชั้นน่ะ”
“เปล่าโกรธนี่...แล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไรทำไมไม่บอกล่ะ”
“ก็ตอนแรก...จะเซอร์ไพร้ส์”คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อย
ยกยิ้มแหยๆให้คนรัก
“อื้ม ก็ดีแล้ว”
“นี่...โกรธชั้นเรื่องจองซูเหรอ?
หรือว่าอะไรน่ะ..อย่าเป็นแบบนี้สิทงเฮ”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้โกรธอะไร”
ท่าทางเฉยชาของคนรักทำเอาฮยอกแจเบ้ปาก
เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาทงเฮยังไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
เอาแต่นั่งเงียบมองไปนอกหน้าต่าง หรือไม่ก็หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านอยู่คนเดียว
เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ใช่รึไง ทำไมต้องมาเฉยเมยใส่กันด้วยล่ะ
“ทงเฮ..เย็นนี้ไปกิน...”เมื่อรถจอดลงที่หน้าบ้าน
ฮยอกแจก็ลองชวนทงเฮคุยอีกครา เรียวแขนเล็กคล้องแขนแกร่งอ้อนๆ
แต่ก็โดนร่างสูงจับออกพร้อมเอ่ยแทรก
“ชั้นมีงานต้องดูน่ะฮยอกแจ
เดี๋ยวค่อยคุยตอนทานข้าวละกันนะ”ทงเฮเอ่ยตัดบทก่อนเดินล่วงหน้าเข้าบ้านไป
ทิ้งให้ฮยอกแจที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังยืนบ่นหัวเสียอยู่คนเดียว
“นี่...เย็นนี้ทำอาหารอิตาเลียนให้หน่อยได้มั้ย
ชั้นอยากทานคาโบนาร่า”เมื่อร่างเล็กเดินตามเข้ามาในบ้าน ก็เอ่ยสั่งแม่บ้านคิมตามที่คิดทันที
“ได้ค่ะ
แล้วคุณชายเธอได้บอกว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากนี้มั้ยคะ”
“ไม่มีล่ะ
เอ้อ..พอใกล้ๆถึงเวลาอาหารสักครึ่งชั่วโมง สั่งอย่าให้ใครอย่ามายุ่มย่ามแถวนี้ล่ะ
เดี๋ยวชั้นจัดการทุกอย่างเอง”
“อ่อ...ได้ค่ะ แล้วจะให้เข้ามาล้างจานตอนดึกๆหรือว่าเป็นช่วงเช้าดีคะ”
“เป็นช่วงเช้าละกัน ถ้ายังไงก็ฝากจัดการด้วยนะ
ชั้นจะไปอาบน้ำก่อนล่ะ เหนียวตัวมากเลย”สั่งเสร็จ
ร่างเล็กก็เดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนของตนกับทงเฮ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าสวย
เท้าเล็กก้าวเข้าไปในห้องที่คุ้นเคย ผ้าปูที่นอนสีครีมอ่อนลายที่เขาชอบ
กรอบรูปคู่บนหัวเตียงที่วางไว้ แม้เวลาผ่านไปเป็นเดือน
ทุกอย่างในห้องยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“คิดถึงจังเลยแฮะ”
ฮยอกแจฉีกยิ้มอย่างปลื้มปิติ
ใช้เวลาชื่นชมห้องนอนกว้างสักพัก
ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูจากตู้เสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการกับตัวเอง ร่างเล็กใช้เวลาสองชั่วโมงก่อนถึงเวลาอาหารเย็นไปกับการดูแล
ขัดผิว ทาสารพัดครีมที่จะช่วยฟื้นฟูผิวที่หยาบกร้านของตัวเอง พลางบ่นกะปอดกะแปด
โทษที่ตัวเองละเลยปล่อยให้ร่างกายโทรมขนาดนี้
เมื่อเงยหน้ามองเวลาจากนาฬิกาบนผนัง
ขาเรียวก้าวเดินไปส่องกระจกบานใหญ่เพื่อเชคความเรียบร้อยของเสื้อผ้า
มือบางจัดปกเชิตสีดำตัวยาวที่คลุมลงมาถึงต้นขา ริดกระดุมเม็ดบนออกแล้วดึงให้คอเสื้อแยกออกกว้าง
หันซ้ายขวาแล้วยกยิ้มมุมปากพึงพอใจ
ขาเรียวย่างก้าวลงบันไดไปที่ชั้นล่างอย่างเชื่องช้า
สายตาสอดส่องมองไปรอบๆ เชคความเรียบร้อยบนโต๊ะอาหาร จานคาโบนาร่าสองจานวางตรงข้ามกันจัดเรียงกับช้อนสอบอย่างเป็นระเบียบ
ขวดไวน์แดงยี่ห้อโปรดที่ตั้งอยู่ในถังน้ำแข็งตรงมุมโต๊ะ
เมื่อเห็นว่าคำสั่งของตนถูกปฏิบัติเรียบร้อยคนตัวเล็กก็ยิ้มอย่างได้ใจ
เดินไปนั่งเก้าอี้รอเวลาที่ร่างสูงจะออกมาจากห้องทำงาน รอไม่นานร่างสูงโปร่งที่คอยก็เดินเข้ามาในบริเวณห้องทานอาหาร
ใบหน้าหล่อคมหันมองคนรักด้วยความแปลกใจ
"แม่บ้านไปไหนหมดน่ะ"
“อื้อ..ทงเฮ...”ร่างเล็กที่ในชุดวาบหวิวก้าวเดินเข้าไปหาคนรักพร้อมยกแขนโอบรอบคออย่างเอาใจ
ช้อนตามองอ้อนร่างสูงอย่างน่ารัก
"ทงเฮอา.. หายโกรธฮยอกแจนะ. นะ นะ ฮยอกแจขอโทษนะ"ร่างบางอ้อนเสียงหวานพร้อมกับแนบใบหน้าเล็กกับไหล่กว้าง
นิ้วเรียววนเล่นที่แผ่นอกแกร่งไปมา คลายเนคไทด์เส้นหนาออกเล็กน้อย
แล้วริดกระดุมคอเสื้อให้เจ้าตัวผ่อนคลาย
"ก็ไม่ได้โกรธอะไรนี่..บอกไปหลายครั้งแล้ว"ร่างสูงแสร้งตีหน้าขรึม
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งทำให้ร่างนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กบดเบียดเข้ามาแนบชิดกว่าเก่า
เรียวมือบางลูบไล้หยอกเย้าแผ่นอกหนาไปมา
"ทงเฮอา..ถ้าไม่โกรธฮยอกแจ
ก็อย่าทำเย็นชาแบบนี้สิ..นะน้า.."คนสวยว่าพร้อมเขย่งตัวเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้กับเรียวแก้มของคนรัก
ประทับจุมพิตแผ่วเบาราวกับลูกแมวตัวน้อยที่กำลังออดอ้อนเจ้านาย
คอเสื้อเชิตตัวใหญ่ไหลลงจากลาดไหล่เผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ตัดกันกับสีดำของเนื้อผ้า
"ที่รักอา.. หายโกรธกันนะ คืนนี้ฮยอกแจยอมตามใจหมดเลย
นะ..นะ..หายโกรธเค้านะ"กระซิบเสียงหวานข้างใบหูอีกฝ่าย แกล้งเป่าลมร้อนเข้าไปด้านในสร้างความวาบหวิวให้ทงเฮมากขึ้น
มือบางเลื่อนไปจับมือหนาทั้งสองข้างให้คล้องเอวบางของตนเอาไว้
เบียดกายถูไถกับอีกร่าง
กลิ่นหอมจางๆของครีมอาบน้ำกลิ่นโปรดลอยแตะปลายจมูกยิ่งสร้างความต้องการให้กับร่างสูง
"แน่ใจนะ..ว่าจะยอมตามใจหมดน่ะ"ได้ยินข้อเสนอที่น่ายินดี
คนเจ้าเล่ห์ก็เอ่ยถามพร้อมจ้องใบหน้าเล็กของคนรักนิ่ง
ยกมือหนาขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าหวานช้าๆ
“แน่สิ..ทุกๆอย่างเลยล่ะ”สบตาร่างสูงนิ่งพร้อมพยักหน้ารับอย่างมั่นใจในคำตอบ
“ถ้าทุกๆอย่างจริง..
ลองจูบมัดจำสักทีหน่อยสิ”เอ่ยสั่งพร้อมยกยิ้มมุมปากมีเลศนัย มือหนาเลื่อนขึ้นลูบไล้เอวคอดช้าๆ
สัมผัสไปทั่วแผ่นหลังบางผ่านเนื้อผ้าหยาบ
ฮยอกแจได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นกดจูบที่ปลายคางยั่วเย้า
ริมฝีปากอิ่มไล้จูบตามไรเคราที่เริ่มขึ้นน้อยๆ
สัมผัสจั๊กจี้ที่ได้รับทำให้ร่างเล็กหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
มือบางรั้งคออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ เรียวลิ้นเล็กแลบออกไล้เลียริมฝีปากร่างสูงช้าๆ แนบริมฝีปากเข้าหาแผ่วเบา
สัมผัสอุ่นชื้นที่โหยหาเร่งเร้าให้ส่งเรียวลิ้นเข้าไปค้นหาความหวานละมุนจะโพรงปากร้อน
ร่างสูงไม่ยอมแพ้ตวัดลิ้นเกี่ยวรัดกับลิ้นเล็กส่งสัมผัสร้อนกลับไปอย่างหนักหน่วง
รสจูบหวานนุ่มแปรผันเพิ่มความเร่าร้อนกระหายหา
ทั้งสองร่างบดเบียดจุมพิตเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาเลิกเสื้อเชิตสีเข้มของคนตัวเล็กขึ้น
ลูบไล้บั้นท้ายอิ่มน่าสัมผัส เคล้นคลึงหนักๆสร้างอารมณ์หวามตามความต้องการของตน
"อ๊า~อย่าพึ่งใจร้อนสิทงเฮ..นี่แค่จูบมัดจำเองนะ"ฮยอกแจละริมฝีปากออกเอ่ยเตือน
เมื่อเห็นว่าร่างสูงเริ่มเลยเถิด นิ้วเล็กแตะเรียวปากอีกฝ่ายห้ามไม่ให้ร่างสูงรุกเข้ามาได้มากกว่าเก่า
"ทานอาหารกันก่อนนะ.. วันนี้มีสปาเกตตี้คาโบนาร่าแบบที่ทงเฮชอบด้วย"ร่างเล็กบอกเหตุผลพร้อมยิ้มหวาน
ก่อนเลื่อนแขนเรียวไปคล้องแขนแกร่งของคนรัก นำพาอีกร่างไปนั่งที่เก้าอี้โต๊ะอาหาร แล้วค่อยเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย
"วันนี้น่ารักจังนะ"คำชมจากเรียวปากหยักทำให้คนสวยอมยิ้ม
"อื้มม.. จะน่ารักให้ดูมากกว่านี้อีกนะ"ว่าพลางเลื่อนมือไปหยิบขวดไวน์แดงมาเปิดออก
จัดการเทใส่แก้วให้ตนกับทงเฮช้าๆ
"มากแค่ไหนกันนะ"
"มาก.. เท่าที่จะมากได้เลยล่ะ"
"ยั่วแบบนี้..ระวังไม่ได้นอนนะ"
"ตลอดคืนนี้...ถึงเย็นพรุ่งนี้ก็ยังไหวเลย"ร่างบางเอ่ยพลางยกยิ้มยั่ว
มือเรียวหยิบแก้วไวน์ของตนชนกับอีกฝ่าย ก่อนจะยกขึ้นจิบน้อยๆ คล้ายดื่มฉลองที่ตนได้กลับมาอยู่กับร่างสูงอีกครา
มื้ออาหารค่ำแสนหวานดำเนินผ่านไปช้าๆ
คำพูดแสนเย้ายวนปลุกอารมณ์ดังจากเรียวปากอิ่มไม่ขาด ประกอบกับท่าทางการม้วนเส้นพาสต้า
ค่อยๆละเลียดเล็มทานช้าๆจงใจยั่วยวนร่างตรงหน้าไม่หยุด ยิ่งเนิ่นนานความต้องการยิ่งเพิ่มสูง
ทงเฮกระหายหาอยากสัมผัสทุกตารางนิ้วของกายบาง อยากจะขบเม้มสร้างรอยสีหวานบ่งบอกความเป็นเจ้าของไปทั่ว
'เคร้ง..'ส้อมเงินในมือบางหล่นกระทบกับพื้นโดยไม่ตั้งใจ
ร่างเล็กสบตากับคนรักเล็กน้อย แล้วค่อยๆก้มตัวลงเก็บแสตนเลสเจ้าปัญหานั่น
"หื้มมม"ร่างสูงเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เมื่อคนช่างยั่วไม่ได้เพียงแค่ก้มลงเก็บส้อมที่หล่น
แต่กลับคลานลอดใต้โต๊ะข้ามมาหา คุกเข่าตรงหน้าขาพลางลูบไล้กางเกงสแลคเนื้อหนาของเขาไปทั่ว
ปัดป่ายลากผ่านส่วนสำคัญที่เริ่มแข็งขืน
"ฮยอกแจเบื่อคาโบนาร่าแล้ว..ฮยอกแจอยากทานอย่างอื่นมากกว่า"เอ่ยบอกอ้อนเสียงหวานน่ารัก
ช้อนตามองคนรักพร้อมเผยอริมฝีปากออกอย่างยั่วเย้า มือบางลูบขึ้นผ่านไปที่หน้าท้องแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
ค่อยๆริดกระดุมเสื้อเชิตออกจากทีละเม็ด
"แล้วฮยอกแจอยากทานอะไรล่ะ หื้มม?"
"อยากทาน..อยากทานของอร่อยๆ..”
.
“ฮยอกแจอยากทานของทงเฮ.."พูดจบมือบางก็รีบปลดตะขอกางเกงของอีกร่าง
พร้อมกับฟันขาวเรียงตัวสวยงับเข้าที่ซิปกางเกงไม่รอช้า
จัดการรูดมันออกอย่างคนใจร้อน ยิ่งได้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้า
คนน่ารักช่างยั่วก็ยกยิ้มพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ส่วนแข็งขืนที่เริ่มตั้งชันดุนดันชั้นในสีกรมท่าออกมาให้เห็นชัด
นิ้วเรียวจงใจสะกิดหนักๆที่ส่วนปลาย และสิ่งที่ได้ตอบกลับยิ่งทำให้คนสวยได้ใจ..เสียงซี้ดปากครางกระเส่าบ่งบอกความเสียวซ่านที่ทงเฮสัมผัส..
"ทงเฮจ๋า..ทงเฮอยากให้เค้ากินมันมั้ย?"แกล้งถามหน้าซื่อพร้อมแลบลิ้นเลียส่วนนั้นผ่านเนื้อผ้าบางที่ขวางกั้น
จงใจก้มตัวลงต่ำให้คอเสื้อที่เปิดกว้างตกลงมากกว่าเก่า
เผยให้เห็นอกบางขาวที่ซ่อนอยู่ภายใน สายตาคมมองลอดสิ่งยั่วเย้าตรงหน้าไม่วางตา
พยักหน้าตอบรับคำถามจากคนตัวเล็กในทันที
มือบางดึงกางเกงสแลคและชั้นในที่เกะกะขวางทางลงมากองที่เข่า
แกนกายใหญ่แข็งขืนพร้อมสำหรับบทรักร้อนแรงถูกเผยออกตรงหน้า
คนสวยยิ้มหวานพร้อมประครองส่วนอ่อนไหวของคนรักเอาไว้
แลบลิ้นไล้เล็มตั้งแต่โคนจรดปลายอย่างเชื่องช้า เรียวลิ้นสะกิดหนักที่ส่วนปลาย
จงใจตวัดปลายลิ้นเล่นกับรูเล็กๆที่เริ่มมีเมือกใสไหลเยิ้ม
“อ่า..อร่อยจัง..”ชื่นชมพร้อมสบตาคู่คมนิ่ง
จดจ้องมองใบหน้าหล่อเข้มไม่ละสายตา
ริมฝีปากสีสดอ้าออกรับแกนกายร้อนเข้าโพรงปากช้าๆ ห่อปากรูดรั้งแกนกายตามความยาว
ขบเม้มหนักสลับเบาเพิ่มความเร้าใจให้อีกฝ่าย เรียวลิ้นขยับเลียนวนไปทั่ว
ระรอกลิ้นขยับรัวยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้กับร่างสูง มือเรียวบางทั้งสองเลื่อนไปหยอกล้อเล่นกับลูกบอลสองลูกข้างใต้
เคล้นคลึงหนักๆ เร้าอารมณ์ความต้องการให้ของอีกร่างให้ทวีคูณ
มือหนาเลื่อนไปวางบนลาดไหล่เล็กพร้อมกับบีบแน่นระบายความอึดอัดในร่าง
ทั้งเทคนิค ลีลา ความช่ำชองของคนรักทำให้สติของเขากระเจิดกระเจิง
ความหฤหรรย์ของเรียวลิ้นและโพรงปากอุ่นร้อนทำให้ความอดกลั้นที่ค้างคามานานใกล้ถึงฝั่งฝันจุดสุดยอดทางอารมณ์
ร่างสูงกัดฟันรับความกระสันที่คนช่างยั่วมอบให้ไม่หยุด
“อืออ..ที่รัก..อ่ะ..”เสียงครางต่ำในลำคอส่งสัญญาณให้คนตัวเล็กเร่งขยับโพรงปากเข้าออกเร็วยิ่งขึ้น
ฮยอกแจใช้ฟันคมครูดเบาๆกับแกนกายใหญ่ เพิ่มความวาบหวามให้กับร่างสูงไม่หยุดหย่อน
ทงเฮจดจ้องแกนกายของตนที่ถูกครอบครอง มุดเข้าออกโพรงปากอิ่มแดงเย้ายวนนิ่งไม่วางตา
คนตรงหน้าช่างยั่วยวน น่าหลงใหล และมอบความสุขให้เขาได้มากจริง
“อื้มมม..ฮยอกแจ..อ่าาาาาาา”ทงเฮหลุดปากครางเสียงดัง
ดวงตาคมหลับลงแน่น มือหนาออกแรงบีบไหล่เล็กอย่างเผลอตัว
ร่างกายทั้งร่างเกร็งสะท้านเมื่อฝั่งฝันที่กระหายหาได้มาถึง
สะโพกปอดกระตุกแรงก่อนฉีดสายธารอุ่นเข้าไปในโพรงปากร้อนของร่างเล็ก
ฮยอกแจอ้าปากรับน้ำรักขาวขุ่นกลืนลงคออย่างไม่นึกรังเกียจ
ซ้ำยังขบเม้มรูดรั้งส่วนปลายหนักๆรีดให้น้ำรักที่หลงเหลือออกมาเพิ่ม
แต่เพราะปริมาณน้ำรักขาวขุ่นของทงเฮที่ห่างจากกิจกรรมร้อนมานานมีมากจนฮยอกแจกลืนไม่ทัน
หยาดหยดน้ำหวานจึงไหลซึมตามมุมปาก ไหลเปรอะไปตามปลายคางและลำคอขาวของคนช่างยั่ว
นิ้วเรียวปาดมันออกช้าๆ ก่อนจะค่อยๆขยับยันกายขึ้นทาบทับร่างอีกฝ่าย ส่งปลายนิ้วเข้าโพรงปากร้อนของทงเฮเข้าไป
ให้อีกฝ่ายชิมรสน้ำรักของตัวเอง
“ของทงเฮอ่ะ...อร่อยที่สุดเลยเนอะ”ว่าพลางส่งยิ้มหวาน
ยิ่งเห็นทงเฮตอบสนองสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยการดูดดุนนิ้วของตนก็ยิ่งชอบใจ
“ทงเฮ..เอานิ้วเพิ่มหน่อย...”ร่างเล็กเอ่ยบอกแล้วค่อยๆเพิ่มนิ้วเข้าไปในโพรงปากร้อนของคนรักเป็นสามนิ้ว
ดวงตาคู่สวยฉ่ำเยิ้มเพราะแรงอารมณ์ บดเบียดกายถูไถกับกล้ามเนื้อแกร่งอย่างออดอ้อน
แกนกายเล็กที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยเบียดเสียดเข้ากับหน้าท้องของทงเฮจนร่างสูงสัมผัสได้
“ฮยอกแจไม่อยากปล่อยบ้างเหรอครับ..หื้มม?”ร่างสูงละริมฝีปากออกจากเรียวนิ้วแล้วเอ่ยถาม
มือหนาเลื่อนไปทัดปอยผมชื้นเหงื่อของคนรักกับใบหูเล็กด้วยความรักใคร่
“ก็...กำลังเตรียมตัวอยู่ไง..ทงเฮปล่อยฮยอกแจก่อนสิ”
“โอเคครับ”ทงเฮยอมทำตามคำสั่งคนตัวเล็กอย่างว่าง่าย
มือหนาละออกจากเอวบางปล่อยให้ฮยอกแจเป็นอิสระจากอ้อมกอด ร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ
ดันเก้าอี้ของคนตรงหน้าให้ออกห่างจากโต๊ะมากยิ่งขึ้น
“หื้มม?”ทงเฮขมวดคิ้วมองคนรักอย่างไม่เข้าใจ
แต่ความสงสัยก็หมดไปเมื่อร่างเล็กหันหน้าเข้าหาโต๊ะทานข้าว
ดันเอาจานข้าวของเขาให้ออกไปไกล มือเล็กข้างนึงยันขอบโต๊ะเอาไว้ ขาเรียวค่อยๆอ้าออกกว้าง
แอ่นสะโพกโก่งโค้งให้อีกฝ่ายเห็นช่องทางรักด้านหลังที่ซ่อนตัวอยู่
ฮยอกแจหันกลับไปยกยิ้มยั่วให้ร่างสูง
พร้อมกับเอื้อมมือบางข้างที่ทงเฮดูดดุนเรียวนิ้วจนเปียกชื้นไปทางด้านหลัง
ค่อยๆกดแทรกปลายนิ้วทั้งสามเข้าไปด้านในอย่างเชื่องช้า กัดฟันทนความเจ็บที่แล่นปราดไปทั่วร่างเอาไว้
เพราะห่างหายจากบทรักไปนาน เมื่อมาเริ่มต้นอีกครั้งจึงยากลำบากแบบนี้
“อ่ะ..อื้อออ..อา..”ฮยอกแจครางกระเส่าเมื่อเรียวนิ้วทั้งสามเข้าไปด้านในจนสุด
หมุนวนไปรอบๆด้านในช้าๆ ใช้เวลาสำรวจผนังนุ่มของตนไปทั่ว
ช่องทางร้อนตอดรัดนิ้วจนเขาแทบขยับไม่ได้
ฮยอกแจค่อยๆถอนนิ้วออกช้าๆแล้วกระแทกกลับเข้าลงไปจนสุดอีกครา
เสียงครางสะท้านดังลั่น ความเสียวกระสันเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวด
เรียวขาเล็กอ้าออกกว้างกว่าเดิม
มือเรียวขยับเข้าออกเร็วๆเร่งให้ช่องทางคับแน่นขยายออกเพื่อรองรับสิ่งที่มีขนาดใหญ่กว่า
“อ่ะ..อา..ซี้ดดด..อ๊าาาาาา”ฮยอกแจกระตุกเกร็งเมื่อปลายนิ้วสะกิดเข้ากับจุดกระสันด้านใน
มือบางที่ค้ำโต๊ะเอาไว้สั่นอย่างอ่อนแรง
ความกระหายหาต้องการสัมผัสรสกามมากกว่าที่มี
ทงเฮมองร่างงดงามคนช่างยั่วไม่วางตา
ช่องทางรักสีสดตรงหน้าขมิบตอดบอกความต้องการที่ร่างเล็กมี ภาพตรงหน้าปลุกเร้าให้แกนกายใหญ่ที่เพิ่งปลดปล่อยกลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้ง
มือหนาเลื่อนลงไปกอบกุมรูดรั้งมันช้าๆ
คิดภาพว่าตนกำลังได้สอดแทรกกายเข้าไปในความคับแน่นแสนยั่วยวนนั้น
“อ่า..ซี้ดด..ฮยอกแจ..อ่ะ..”
“ทงเฮ..อ่ะ...เอาเข้ามา...อ่ะ..อ่า..เอาของทงเฮเข้ามา..นิ้วฮยอกแจ..มันไม่พอ..ซี้ดดดด”วอนขอคนรักเสียงสั่นพร่า
ร่างหนาที่นั่งจ้องกายคนรักมานานไม่รอช้ารีบถลาเข้าประชิดกาย
มือหนาค่อยๆถอดนิ้วเรียวของคนรักออก ประครองจัดท่าทางให้คนรักจับขอบโต๊ะไว้ให้มั่น
“อ่า..ฮยอกแจ..ทำไม..ยั่วแบบนี้น่ะ..”ร่างสูงไม่รอช้ากดแกนกายใหญ่ที่ตั้งชันขึ้นมาอีกคราเข้าหาความคับแน่นที่ตอดขมิบรอสัมผัสจากเขา
“ซี้ดดด..ทงเฮ..อ่ะ..
ใหญ่ดีจัง..แบบนี้ล่ะ..อ่ะ...เค้าต้องการแบบนี้..อ่ะ..อา..ทงเฮจ๋า...ขยับสิ..กระแทกเข้ามาในตัวฮยอกแจแรงๆนะ..
ฮยอกแจต้องการ..อ่า..”ฮยอกแจขอร้องพร้อมแอ่นสะโพกให้ยกสูงยิ่งขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายขยับเข้ามาในกายเขาได้ถนัดและลึกทุกท่วงที
ไม่รอให้สั่งซ้ำ
ทงเฮเลื่อนมือมาประครองบั้นท้ายอิ่มเอาไว้แน่นแล้วค่อยๆขยับสะโพกช้าๆ
ส่งแกนกายเข้าออกช่องทางรักที่น่าหลงใหลด้วยจังหวะเนิบนาบให้คนตัวเล็กได้ปรับตัว
“ไม่ทงเฮ..ไม่เอาช้าๆ..อ่ะ..อ่ะ..เอาเร็วๆเลย..อ่ะ..กระแทกมา..เอาแรงๆ..เร็วๆ..”ร่างสูงค้านขึ้นเสียงดัง
ขยับสะโพกนำทางให้อีกร่างเพิ่มความเร็วขึ้นตามใจ ใบหน้าหวานเอียงแนบซบกับเรียวแขน
หอบหายใจแรงสลับเสียงครางกระเส่าจากสัมผัสร้อนแรงที่ไม่อาจสะกดกลั้น
“อ่า..ฮยอกแจ..มันแน่นมาก..ซี้ดดด..ตัวนายมัน..อ่ะ..”ทงเฮเร่งขยับจังหวะส่งแรงกระแทกเข้าออกตามคำขอ
ถอนแกนเข้ามาจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้าไปแรงๆ
มือหมาบีบเคล้นบั้นท้ายขาวเนียนตามแรงอารมณ์ที่คุกรุ่น
บ้างก็แยกกลีบบั้นท้ายสวยออกมองช่องทางสีสวยดูดกลืนกายของเขาอย่างโหยกระหาย
ร่างสูงก้มลงทาบริมฝีปากกับต้นคอขาวด้านหลัง
ขบเม้มมันแรงๆให้เกิดรอยแดงเข้มบ่งบอกความเป็นเจ้าของ
เรียวลิ้นลากไล้ลงมาตามลาดไหล่และแผ่นหลัง
ฝังรอยรักไว้ทั่วทุกตารางนิ้วที่ริมฝีปากลากผ่าน
ร่างกายส่วนล่างยังขยับเข้าออกทำหน้าที่ไม่หยุดหย่อน
เสียงผิวหนังกระทบกันดังก้องไปทั่วห้องอาหาร
อุณหภูมิต่ำจากเครื่องปรับอากาศไม่สามารถดับไฟร้อนของกิจกรรมร้อนแรงของทั้งสองได้
เสียงครางหวานกระเส่าดังเคล้ากับเสียงครางต่ำในลำคอ
ยิ่งมือหนาบีบเคล้นไปตามผิวกายนุ่มเนียน ไฟรักความต้องการก็ยิ่งลุกโชน
“อ่ะ..อ่า..ทงเฮ..ทงเฮ..อา..เค้าเสียว...อา..
ทำให้เค้าหน่อย..อา..”ร่างเล็กร้องขอเสียงหวาน
ร่างสูงจึงเลื่อนมือข้างนึงลงไปกอบกุมแกนกายที่ตั้งชันเพราะแรงอารมณ์ใกล้ถึงฝั่งฝันที่รอคอย
มือหนารูดรั้งแกนกายตามความยาวด้วยจังหวะหนักหน่วงไม่ต่างจากจังหวะที่ขยับเข้าออกทางด้านหลัง
“อ่ะ..ทงเฮ..อา..เค้า..อ่ะ..จะไม่ไหวแล้ว..อีกนิด..ซี้ดดด..”ประโยคหวานหูดังรับช่องทางด้านหลังที่ตอดขมิบรัดกายเขาถี่รัว
ทงเฮจึงเร่งความเร็วขยับเข้าออกกระแทกไม่ยั้ง ทั้งเร่าร้อน ทั้งรุนแรง
หนักหน่วงในทุกๆครั้งที่เข้าเขาหา ร่างขาวเนียนของคนตรงหน้าทำให้เขาคลั่งจนแทบบ้า
หยาดเหงื่อที่ไหลซึมไหลจากไรผมลงมาอาบแก้มตอบไปทั่ว
“ซี้ดดดดดด
อ่าาาาาาาาาา”ทั้งสองร่างครางออกมาพร้อมกันพร้อมกับร่างกายกระตุกเกร็งเมื่อถึงสรวงสวรรค์ปลายฝันที่โหยหา
ร่างบอบบางสั่นสะท้าน
สะโพกบางแอ่นสูงพร้อมกับฉีดพ่นน้ำรักขาวขุ่นออกมาใส่มือหนาที่ให้ความสุข
ส่วนทงเฮก็ฉีดสายธารความสุขเข้าไปในร่างกายเล็กของคนรักอย่างรุนแรง
เสียงหอบหายใจพร้อมกับแผ่นอกกระเพิ่มขึ้นลงแรงบ่งบอกถึงความสุขและความเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมที่เพิ่งผ่าน
ร่างแกร่งค่อยๆถอนแกนกายที่อ่อนตัวลงจากช่องทางสีสดช้าๆ
น้ำรักสีขุ่นไหลย้อนออกมาเปรอะไปตามต้นขาขาวเป็นทางยาวไปทั่ว
มือหนาประครองร่างกายเล็กที่เข่าอ่อนแทบจะยันตัวเอาไว้ไม่ไหว
ค่อยๆวางร่างบอบบางลงกับเก้าอี้โต๊ะอาหารเบาๆอย่างทะนุถนอม
“ไหนบอกว่าไหวจนถึงคืนพรุ่งนี้ไง..
แค่นี้ก็อ่อนปวกเปียกซะแล้วนะ”ร่างสูงเอ่ยล้อคนปากดีที่นั่งหอบขำๆ
ก้มลงจูบหน้าผากบางอย่างเอ็นดู ก่อนจะเลื่อนลงมาหอมแก้มใสเบาๆอีกหลายทีด้วยความคิดถึง
“อื้อ...ไหวน่ะไหว..แฮ่ก..แฮ่ก..แต่ขอพักก่อนไม่ได้รึไงล่ะ..”คนตัวเล็กเถียงเสียงขุ่นไม่ยอมแพ้
“ฮ่ะๆๆ
รู้มั้ยว่าคิดถึงมากน่ะ..”ร่างสูงยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยถามเสียงนุ่ม
มือหนาลูบกลุ่มผมสีสว่างของคนรักเบาๆ
“รู้สิ..ก็เหมือนกันน่ะแหละ”
“อื้ม..นั่นล่ะ..รักฮยอกแจมากนะรู้มั้ย”
“ไม่รู้อ่ะ.เพราะเค้ารักทงเฮมากกว่าเยอะ..”คนตัวเล็กเถียงกลับด้วยท่าทางน่ารัก
เอนหัวพิงกับหน้าท้องแกร่งของคนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ
ส่งเสียงครางงึมงำไม่ได้ศัพท์ในลำคอ ออดอ้อนออเซาะบ่นว่าเหนื่อย
บ่นว่าคิดถึงน่าเอ็นดู
“ป่ะ..พูดเสียงแจ้วๆแบบนี้หายเหนื่อยแล้วใช่มั้ย?
ไปที่ห้องนอนกันดีกว่านะ”ร่างสูงว่าพลางช้อนกายเล็กขึ้นแนบอกพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ถึงแม้คนช่างยั่วจะบ่นว่าเหนื่อยมากแค่ไหน
เขาก็ไม่ยอมละทิ้งข้อเสนอดีๆที่คนตัวเล็กพูดเอาไว้หรอกนะ
“ไม่เอาอ่ะ..”คนตัวเล็กเถียงอย่างดื้อรั้น
“ได้ไง..ไม่ฟังหรอกนะ ก็ตกลงเอาไว้แล้วนี่”
“ไม่เอา..เค้าไม่ได้ไม่ให้ทงเฮเอาเค้า...”เอ่ยขัดเสียงอ่อย
ใบหน้าขาวหวานแดงซ่านดูน่ารักน่าชัง
จนคนมองอดใจไม่ไหวต้องฝังปลายจมูกเข้ากับแก้มเนียนหนักๆอีกที
“หื้มมม”
“เค้าไม่อยากโดนเอาที่ห้องนอน...เอาเค้าที่อื่นเถอะนะทงเฮ...”